![](/assets/artwork/1x1-42817eea7ade52607a760cbee00d1495.gif)
7 min
![](/assets/artwork/1x1-42817eea7ade52607a760cbee00d1495.gif)
กู้ซื้อบ้าน กู้สหกรณ์หรือธนาคารดีกว่ากัน Easy&Simple Investor
-
- Self-Improvement
คนเราทุกคนเกิดขึ้นมาแล้วเนี่ย ย่อมต้องการปัจจัย 4 อันเป็นพื้นฐานในการดำรงชีพและที่อยู่อาศัยก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ การจะซื้อบ้านในชีวิตคนเรา ณ ปัจจุบันก็ต้องพึ่งสถาบันการเงินในการกู้หนี้ยืมสิน แล้วผ่อนชำระหนี้ซึ่งส่วนใหญ่จะตกอยู่ประมาณ 25 ถึง 35 ปีเลยด้วยซ้ำ มันจึงทำให้หลายๆคนต้องคิดต้องคำนวณต้องไตร่ตรอง ก่อนที่จะซื้อบ้านสักหลังนึง ผมอาจจะพูดในบริบทที่เอาใจข้าราชการหรือคนที่ทำงานประจำ ซึ่งในองค์กรที่ทำงานนั้นมีสหกรณ์ออมทรัพย์สามารถกู้ซื้อบ้านได้ และอีกทางเลือกหนึ่งคือกู้ผ่านสถาบันการเงินหรือธนาคารต่างๆนั่นเอง เราจะเลือกกู้ผ่านช่องทางไหนดี ผมให้หลักการพิจารณาไว้อย่างนี้ละกันครับ ประเด็นแรกที่ต้องพิจารณาคือ เรื่องดอกเบี้ย เรื่องนี้เป็นหัวใจหลักของการเป็นหนี้เพราะว่าดอกเบี้ยที่สูงกว่ายอมสร้างภาระหนี้ที่มากกว่าอยู่แล้วอย่างที่ทุกๆคนเข้าใจกัน ลักษณะดอกเบี้ยของเงินกู้สหกรณ์ออมทรัพย์กับธนาคารทั่วไปมีความแตกต่างกัน หากเป็นดอกเบี้ยเงินกู้สหกรณ์ออมทรัพย์มักจะเป็นดอกเบี้ยคงที่นั่นคือระบุอย่างชัดเจนเลยว่าตลอดระยะเวลาสัญญาเงินกู้นั้นจะคิดดอกเบี้ยในอัตราเท่าใด เท่าที่สำรวจข้อมูลมาณปัจจุบันคือต้นปี 2564 ดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้านของสหกรณ์ออมทรัพย์จะอยู่ประมาณ 5-7%ต่อปี ส่วนดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้านของธนาคารมักจะเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นดอกเบี้ยต่ำในช่วง 1-2 ปีแรก หลังจากนั้นจะเป็นดอกเบี้ยลอยตัวที่อ้างอิงตามภาวะดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อในตอนนั้น โดยจะมีค่าเทียบเคียง ที่หลายคนคงจะรู้จักก็คือ อัตราดอกเบี้ย mlr และอัตราดอกเบี้ย mrr ซึ่งผมขอยังไม่ลงรายละเอีย
คนเราทุกคนเกิดขึ้นมาแล้วเนี่ย ย่อมต้องการปัจจัย 4 อันเป็นพื้นฐานในการดำรงชีพและที่อยู่อาศัยก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ การจะซื้อบ้านในชีวิตคนเรา ณ ปัจจุบันก็ต้องพึ่งสถาบันการเงินในการกู้หนี้ยืมสิน แล้วผ่อนชำระหนี้ซึ่งส่วนใหญ่จะตกอยู่ประมาณ 25 ถึง 35 ปีเลยด้วยซ้ำ มันจึงทำให้หลายๆคนต้องคิดต้องคำนวณต้องไตร่ตรอง ก่อนที่จะซื้อบ้านสักหลังนึง ผมอาจจะพูดในบริบทที่เอาใจข้าราชการหรือคนที่ทำงานประจำ ซึ่งในองค์กรที่ทำงานนั้นมีสหกรณ์ออมทรัพย์สามารถกู้ซื้อบ้านได้ และอีกทางเลือกหนึ่งคือกู้ผ่านสถาบันการเงินหรือธนาคารต่างๆนั่นเอง เราจะเลือกกู้ผ่านช่องทางไหนดี ผมให้หลักการพิจารณาไว้อย่างนี้ละกันครับ ประเด็นแรกที่ต้องพิจารณาคือ เรื่องดอกเบี้ย เรื่องนี้เป็นหัวใจหลักของการเป็นหนี้เพราะว่าดอกเบี้ยที่สูงกว่ายอมสร้างภาระหนี้ที่มากกว่าอยู่แล้วอย่างที่ทุกๆคนเข้าใจกัน ลักษณะดอกเบี้ยของเงินกู้สหกรณ์ออมทรัพย์กับธนาคารทั่วไปมีความแตกต่างกัน หากเป็นดอกเบี้ยเงินกู้สหกรณ์ออมทรัพย์มักจะเป็นดอกเบี้ยคงที่นั่นคือระบุอย่างชัดเจนเลยว่าตลอดระยะเวลาสัญญาเงินกู้นั้นจะคิดดอกเบี้ยในอัตราเท่าใด เท่าที่สำรวจข้อมูลมาณปัจจุบันคือต้นปี 2564 ดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้านของสหกรณ์ออมทรัพย์จะอยู่ประมาณ 5-7%ต่อปี ส่วนดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้านของธนาคารมักจะเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นดอกเบี้ยต่ำในช่วง 1-2 ปีแรก หลังจากนั้นจะเป็นดอกเบี้ยลอยตัวที่อ้างอิงตามภาวะดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อในตอนนั้น โดยจะมีค่าเทียบเคียง ที่หลายคนคงจะรู้จักก็คือ อัตราดอกเบี้ย mlr และอัตราดอกเบี้ย mrr ซึ่งผมขอยังไม่ลงรายละเอีย
7 min