Filmment Filmment

รีวิว Kingdom of the Planet of the Apes - อาณาจักรแห่งพิภพวานร โดย Filmment

.

สนับสนุนโดย ญิบ ฟิล์ม

Youtube: https://www.youtube.com/@Yipfilm

Facebook: https://shorturl.at/ghC19

.

สนับสนุน Filmment ด้วยการสมัครสมาชิกได้ที่นี่เลยครับ

https://www.youtube.com/channel/UC4SaP9EAPdc2sSbc7b-hpIw/join

.

เรื่องราวของโนอา วานรหนุ่มผู้รอดชีวิตจากการรุกรานของพร็อกซิมัส ผู้ปกครองจอมเผด็จการซึ่งหวังขยายอาณาจักรของตัวเอง โนอาจึงได้ออกเดินทางเพื่อกอบกู้เผ่าของตัวเอง ในระหว่างทางเขาได้พบเจอกับเม มนุษย์สาวผู้กุมความลับบางอย่างเอาไว้ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการหยุดยั้งแผนการร้ายของพร็อกซิมัส โนอาจึงต้องฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการ เพื่อปลดแอกเผ่าของตัวเองให้เป็นอิสระอีกครั้ง

.

ความน่าสนใจของช่วงเวลาที่ภาพยนตร์เลือกจะบอกเล่า คือการที่วิวัฒนาการนั้นกลับด้านกันโดยสมบูรณ์ครับ เพราะมันคือโลกหลังการล่มสลายของมนุษยชาติ แต่มันกลับเป็นโลกที่เฟื่องฟูของเหล่าวานรครับ พวกมันได้สร้างนิคมขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอารยธรรมของตัวเอง ในขณะเดียวกันอิทธิพลของซีซาร์นั้นก็ค่อยๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา วานรรุ่นใหม่หลายคนไม่ได้รู้จักชื่อของเขาอีกต่อไปแล้ว แต่ในขณะเดียวกันคำสอนของเขาซึ่งเป็นดั่งเข็มทิศนำทางให้กับเหล่าวานรในยุคสมัยหนึ่ง ก็ได้ถูกบิดเบือนและนำมาใช้เพื่อผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไปครับ

.

ตัวละครหลักของเรื่องอย่างโนอา วานรหนุ่มที่เติบโตมาภายในสังคมเล็กๆ ของตัวเอง การเดินทางเพื่อกอบกู้เผ่าของเขาคือประสบการณ์ครั้งสำคัญในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ขณะที่ตัวละครฝั่งมนุษย์อย่างเม เป็นผู้กุมความลับสำคัญของเรื่อง ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอกของทั้ง 2 ตัวละครนี้คือแรงผลักดันสำคัญของเรื่องราว เนื่องจากการกระทำและการตัด

รีวิว When Evil Lurks - ปีศาจ ลวง ตาย โดย Filmment

.

สนับสนุนโดย ญิบ ฟิล์ม

Youtube: https://www.youtube.com/@Yipfilm

Facebook: https://shorturl.at/ghC19

.

สนับสนุน Filmment ด้วยการสมัครสมาชิกได้ที่นี่เลยครับ

https://www.youtube.com/channel/UC4SaP9EAPdc2sSbc7b-hpIw/join

.

เรื่องราวของเปโดรและจิมมี่ 2 พี่น้องที่พบว่ามีเชื้อประหลาดระบาดในฟาร์มแห่งหนึ่งในละแวกบ้าน พวกเขาจึงพยายามหยุดยั้งการระบาดให้เร็วที่สุด ก่อนที่จะพบว่าเชื้อร้ายดังกล่าวเป็นพลังอันดำมืดเหนือธรรมชาติ และพวกเขาก็ได้พลั้งมือทำให้เชื้อปีศาจนี้ระบาดออกสู่คนที่พวกเขารักโดยไม่รู้ตัว

.

When Evil Lurks ได้มอบความรู้สึกอันแสนสะอิดสะเอียน และสร้างภาวะอันรบกวนจิตใจถึงขีดสุดให้กับผู้ชมครับ กล่าวคือความสยองขวัญของภาพยนตร์นั้นไม่ได้มาจากการสร้างจังหวะ Jump Scare หรือการปลุกปั้นความขนหัวลุกจากบรรยากาศอันเย็นยะเยือก แต่ปัจจัยสำคัญของความสยองขวัญนั้นมาจากงาน Practical Effect หรืองานเทคนิคพิเศษแบบทำมือ ที่สามารถเนรมิตความน่าขยะแขยงของผู้ที่ถูกเชื้อร้ายเข้าสิงได้อย่างชวนคลื่นไส้วิงเวียน พร้อมด้วยการผลักตัวละครให้เผชิญหน้ากับสถานการณ์อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ซึ่งแต่ละเหตุการณ์ที่พวกเขาต้องก้าวผ่านนั้นต่างก็ชวนให้ปวดเศียรเวียนเกล้าและน่าหดหู่ใจมากขึ้นเรื่อยๆ 

.

นอกจากนี้ภาพยนตร์ยังเต็มไปด้วยความรุนแรงแบบเห็นเลือดเห็นเนื้อ และไม่มีการตัดต่อช่วยสร้างอารมณ์ร่วมแต่อย่างใด หากแต่เป็นการฉายภาพความโหดร้ายทารุณให้เห็นตรงหน้าแบบไม่ยั้งมือ ซึ่งในทางหนึ่งมันก็เป็นดั่งความท้าทายต่อคอหนังสยองขวัญ ให้จดจ้องสายตาไปยังภาพที่ปรากฏโดยไม่หันหนี และผลลัพธ์ของการต่อสู้ครั้งนี้ก็คือ ไม่ว่าภูมิต้านทานต่อฉากชวนแหวะของทุกท่านจะสูงแค่ไหน ผมมั่นใจว่า When Evil Lurks จะสามารถแท

รีวิว The Ministry of Ungentlemanly Warfare - แสบจารชนคนพลิกโลก โดย Filmment

.

สนับสนุนโดย ญิบ ฟิล์ม

Youtube: https://www.youtube.com/@Yipfilm

Facebook: https://shorturl.at/ghC19

.

สนับสนุน Filmment ด้วยการสมัครสมาชิกได้ที่นี่เลยครับ

https://www.youtube.com/channel/UC4SaP9EAPdc2sSbc7b-hpIw/join

.

ระหว่างที่ประเทศอังกฤษกำลังจะพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 นายกรัฐมนตรีอย่างวินสตัน เชอร์ชิลได้ตัดสินใจครั้งสำคัญ ด้วยการจัดตั้งกองกำลังขนาดย่อมเพื่อพลิกชะตาของตัวเองในสงคราม ด้วยการจมเรือขนเสบียงของนาซีเพื่อตัดกำลังเรือดำน้ำของพวกเขา และเปิดทางให้กองทัพฝั่งสัมพันธมิตรเดินทางข้ามมหาสมุทรมาได้โดยง่าย นำทีมโดยกัส มาร์ช-ฟิลลิปส์ นายทหารบ้าดีเดือดเดนตายที่พร้อมแลกทุกอย่างเพื่อให้ภารกิจครั้งนี้ประสบความสำเร็จ

.

ในช่วงหลายปีมานี้ผู้กำกับภาพยนตร์อย่าง Guy Ritchie เลือกจะหยิบจับงานที่หลุดออกจากสไตล์ดั้งเดิมของตัวเองบ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ นะครับ บางครั้งก็เข้าเป้าอย่างงดงาม แต่บางครั้งมันก็เป็นความผิดพลาดที่น่าเสียดาย โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่า The Ministry of Ungentlemanly Warfare นั้นอยู่ตรงกลางครับ กล่าวคือมันมีทั้งส่วนที่ผมชอบและส่วนที่ผมรู้สึกมีปัญหากับภาพยนตร์ โดยหลักนั้นมาจากการที่ภาพยนตร์อ้างอิงเรื่องราวส่วนใหญ่มาจากเหตุการณ์จริง ทำให้พื้นที่ของความสร้างสรรค์และความบ้าบอตามขนบของ Guy Ritchie นั้นมีข้อจำกัดอยู่พอสมควร รวมถึงการเลือกที่จะยึดเกาะอยู่กับความเป็นจริงยังยึดโยงกับฉากแอ็คชั่น ที่ไม่สามารถสอดแทรกความหลุดโลกได้เหมือนกับผลงานที่ผ่านมาของเขา

.

แต่สิ่งที่ Guy Ritchie สอบผ่านอยู่เสมอคือการนำเสนอตัวละครกลุ่มใหญ่ให้ออกมามีสีสัน และสร้างเคมีระหว่างตัวละครได้อย่างเป็นธรรมชาติครับ ซึ่งปฏิบัติการของ The Ministry of Ungentlemanly Warfare นั้นก็ชัดเจนว่ามันเป็น

รีวิว อนงค์ - My Boo โดย Filmment

.

สนับสนุนโดย ญิบ ฟิล์ม

Youtube: https://www.youtube.com/@Yipfilm

Facebook: https://shorturl.at/ghC19

.

สนับสนุน Filmment ด้วยการสมัครสมาชิกได้ที่นี่เลยครับ

https://www.youtube.com/channel/UC4SaP9EAPdc2sSbc7b-hpIw/join

.

เรื่องราวของโจ นักแคสเกมที่เป็นหนี้หลายแสน เขาได้รับมรดกเป็นบ้านโบราณสมัยรัชกาลที่ 6 หลังหนึ่ง โจตั้งใจว่าจะขายบ้านหลังนี้เพื่อทำกำไร แต่เขากลับไปเจอเข้ากับผีในบ้านอย่างอนงค์ หญิงสาวที่เสียชีวิตไปหลายสิบปีแล้วแต่ไม่อาจไปเกิดใหม่ได้ โจจึงตัดสินใจเปลี่ยนมรดกของเขาให้กลายเป็นบ้านผีสิงเพื่อหารายได้ โดยให้ผีจริงๆ ในบ้านมาช่วยเป็นนักแสดงให้ แต่แล้วเรื่องวุ่นๆ ก็เกิดขึ้น เมื่อโจและอนงค์นั้นเกิดตกหลุมรักกัน

.

ส่วนที่ออกมาดีกว่าที่ผมคิดเอาไว้มากๆ ก็คือพาร์ทความโรแมนติกของเรื่องครับ แน่นอนครับว่าการนำเสนอเรื่องราวของความรักระหว่างผีกับคนนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ และมีตอนจบที่ไม่ได้คาดเดายากเกินไปนัก แต่ด้วยองค์ประกอบต่างๆ ของสถานการณ์ในเรื่อง ชวนให้ผู้ชมลุ้นตามไปกับความรักที่เป็นไปไม่ได้ของตัวละคร สิ่งที่ภาพยนตร์ทำได้ดีไม่แพ้กันก็คือ การสร้างโมเมนต์ที่กระตุกห้วงความคิดของตัวละคร และดึงให้พวกเขากลับมายืนอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงไม่ใช่นิยายเพ้อฝัน ทั้งนี้ก็เพื่อท้าทายและดึงให้ตัวละครนั้นต้องทบทวนความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง บนเงื่อนไขของความสัมพันธ์ที่ถูกตราหน้าว่าเป็นไปไม่ได้

.

จี๋ สุทธิรักษ์ถูกใช้งานอย่างเหมาะสมในพาร์ทของความตลกครับ กล่าวคือเจ้าตัวไม่ใช่นักแสดงตลกมืออาชีพ การเล่นหูเล่นตาหรือออกท่าทางเพื่อสร้างเสียงหัวเราะจึงไม่ใช่ธรรมชาติของเขา ซึ่งภาพยนตร์ก็เลือกจะสร้างให้ตัวละครต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ตลกขบขัน

รีวิว Challengers - ชาเลนเจอร์ส โดย Filmment

.

สนับสนุนโดย ญิบ ฟิล์ม

Youtube: https://www.youtube.com/@Yipfilm

Facebook: https://shorturl.at/ghC19

.

สนับสนุน Filmment ด้วยการสมัครสมาชิกได้ที่นี่เลยครับ

https://www.youtube.com/channel/UC4SaP9EAPdc2sSbc7b-hpIw/join

.

เรื่องราวของทาชิ นักเทนนิสหญิงดาวรุ่งที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถแข่งขันได้อีกต่อไป เธอตัดสินใจผันตัวเป็นโค้ชให้กับอาร์ต สามีของเธอเอง ก่อนที่โชคชะตาจะนำพาทั้งคู่ให้โคจรมาเจอกับแพททริกในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ การแข่งขันแมตช์นี้น่าจะเป็นเกมธรรมดาทั่วไป หากแพททริกไม่ใช่ทั้งเพื่อนสนิทของอาร์ต และอดีตคนรักของทาชิเอง

.

ภาพยนตร์เลือกนำเสนอเส้นทางสู่ความเป็นเลิศในกีฬาเทนนิสควบคู่ไปกับความสัมพันธ์ที่ร้อนแรงและกินเวลานานหลายปีครับ ซึ่งคำถามสำคัญก็คือ ตัวละครทุกคนจะใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์อันซับซ้อนของตัวเองอย่างไร? เนื่องจากพวกเขาถูกผลักให้ยืนอยู่บนจุดเสี่ยงตลอดเวลา และต่างก็พร้อมจะก้าวข้ามเส้นแบ่งทางศีลธรรมเพื่อผลลัพธ์บางอย่างอยู่เสมอ แม้จะมีคนที่น่าเห็นใจอยู่บ้าง แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถกล่าวได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีตัวละครใดในเรื่องที่ขาวสะอาดเลยครับ

.

เนื้อหาที่ว่าด้วยความสัมพันธ์อันเข้มข้น ถูกเล่าขนานไปกับการแข่งขันเทนนิสผ่านงานสร้างที่ยอดเยี่ยมครับ โดยภาพยนตร์นั้นเลือกใช้การวางเฟรมภาพเป็นอาวุธสำคัญในการสร้างความหวือหวาให้กับการแข่งขัน ทั้งการใช้ภาพแทนสายตาตัวละครเพื่อดึงผู้ชมเข้าสู่มุมมองของพวกเขา และการแทนสายตาลูกเทนนิสที่ถูกหวดข้ามคอร์ทไปมาอย่างบ้าคลั่ง รวมถึงการใช้ช็อตสโลว์โมชั่นได้อย่างถูกจังหวะ ซึ่งช่วยให้ทุกอย่างดูเหนือจริงและขับเน้นอารมณ์ของตัวละครออกมาได้ชัดเจนมากขึ้น จึงทำให

รีวิว The Fall Guy - สตันท์แมนคนจริง โดย Filmment

.

สนับสนุนโดย ญิบ ฟิล์ม

Youtube: https://www.youtube.com/@Yipfilm

Facebook: https://shorturl.at/ghC19

.

สนับสนุน Filmment ด้วยการสมัครสมาชิกได้ที่นี่เลยครับ

https://www.youtube.com/channel/UC4SaP9EAPdc2sSbc7b-hpIw/join

.

เรื่องราวของโคล์ท ซีฟเวอร์ส สตันท์แมนมากฝีมือผู้ต้องออกตามหาทอม ไรเดอร์ พระเอกคนสำคัญที่หายตัวไปจากกองถ่ายอย่างลึกลับ เพื่อสานสัมพันธ์กับอดีตคนรักอย่างโจดี้ และกอบกู้ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์​เรื่องแรกของเธอให้สำเร็จ

.

สื่อแทบทุกสำนักต่างพูดถึง The Fall Guy ว่ามันเป็นดั่งจดหมายรักของ David Leitch ถึงวงการสตันท์แมน ซึ่งก็เป็นประโยคที่ไม่ได้เกินจริงและสามารถนิยามภาพยนตร์ได้อย่างชัดเจนครับ ด้วยคอนเซปต์ของภาพยนตร์ที่เลือกใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบ “หนังซ้อนหนัง” จึงเป็นการเปิดพื้นที่ให้เรื่องราวในการพาผู้ชมไปเกาะติดกับเบื้องหลังของกองถ่าย รวมถึงการตีแผ่แง่มุมที่ตกสำรวจและแทบไม่เคยถูกพูดถึงของสตันท์แมน กับความเสี่ยงที่พวกเขาต้องแบกรับ, ความอันตรายที่พวกเขาต้องฝ่าฟัน รวมถึงความเหนื่อยล้าที่แลกมากับการไม่ได้รับเครดิต และไม่สามารถปรากฏใบหน้าของตัวเองลงไปในเฟรมได้ด้วยซ้ำ 

.

แม้ว่าจากการโปรโมทจะทำให้ผู้ชมคิดว่า The Fall Guy เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นแบบเต็มสูบ แต่ผมรู้สึกว่าแกนกลางของภาพยนตร์นั้นเป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้มากกว่าครับ โดยภาพยนตร์เต็มไปด้วยองค์ประกอบที่ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้แทบทุกเรื่องต้องมีครับ ไล่มาตั้งแต่การเริ่มต้นเรื่องด้วยความไม่ลงรอยกันของพระนาง, ความสัมพันธ์อันผุพังค่อยๆ ถูกซ่อมแซมผ่านการกระทำของตัวละคร,การสร้างตัวละครสมทบจอมขโมยซีน และโมเมนต์หวานๆ ประกอบบทเพลงสุดซึ้งของเรื่องครับ 

.

ฉากแอ็คชั่นของ The Fall Guy นั้นไม่ได้มุ่ง