Soul Food Podcasts Soul Food Ministries

พระธรรมนำชีวิต
ตอน ทำยังไงกับสัญญาเตือน Ep.982

รถรุ่นใหม่ๆจะมีไฟเตือนเมื่อมีอะไรผิดปกติ เมื่อเห็นไฟเอ็นจินสีเหลืองขึ้นเตือน เราทำยังไงเมื่อเห็นมันจะจอดแล้วเข้าอู่หาช่าง หรือยังขับไปเรื่อยๆ เพราะคิดว่าเดี๋ยวมันก็ดับไปเอง ในบทนี้เราจะเห็นสัญญาณเตือนขึ้นโชว์ มันขึ้นอยู่กับเราว่าจะเชื่อฟังสัญญาณต่างๆนั้นไหม พระเจ้าได้ให้โมเสสพูดถึงอนาคตที่จะเกิดขึ้นกับคนอิสราเอลโดยบอกว่า เมื่อพระเจ้าทรงนำท่านเข้าสู่ดินแดนนั้นพระองค์จะทรงขับไล่ชนชาติต่างๆ ออกไปทั้งหมด 7 ชนชาติ ซึ่งพวกเขาซึ่งใหญ่และเข้มแข็งกว่าอิสราเอล

“และเมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงมอบเขาทั้งหลายไว้ให้ท่าน และท่านจะตีเขาให้พ่ายแพ้ไปนั้น ท่านต้องทำลายเขาให้หมดสิ้น อย่าทำพันธสัญญาใดๆ กับเขาเลย และอย่ามีความเมตตาต่อเขาด้วย”
‭‭เฉลยธรรมบัญญัติ‬ ‭7‬:‭2‬

สิ่งคนอิสราเอลต้องทำคือทำลายศัตรูให้สิ้นซาก อย่าทำข้อตกลงใดๆกับเขา ต้องไม่อะลุ่มอะล่วย รอมชอม ยอมหรือแสดงความเมตตาสงสารหรือปรานีต่อเขา โดยปกติแล้วพระเจ้าต้องการให้เราเป็นเหมือนพระองค์คือมีใจเมตตา แต่กับความบาปพระเจ้าไม่เคยเมตตา ขอให้เราเป็นเหมือนพระองค์ ที่จะไม่อะลุ่มอล่วย รอมชอมและเมตตาสงสารกับความบาปที่อยู่รอบตัวเรา

“อย่าเกี่ยวดองกับเขาโดยการแต่งงาน อย่ายกบุตรสาวของท่านให้แก่บุตรชายของเขา หรือรับบุตรสาวของเขามาให้บุตรชายของท่าน เพราะเขาจะทำให้บุตรชายของท่านหันจากการติดตามเราไปปรนนิบัติพระอื่นๆ แล้วพระยาห์เวห์จะทรงพระพิโรธต่อท่านทั้งหลายและจะทรงทำลายท่านอย่างรวดเร็ว”
‭‭เฉลยธรรมบัญญัติ‬ ‭7‬:‭3‬-‭4‬

อีกคำเตือนคือ อย่าแต่งงานพวกศัตรูนั้น เพราะพวก

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (70)

8สิ่งที่ดีกว่า

“ชื่อเสียงดีก็ดีกว่าน้ำมันหอมอย่างดี
และวันตายก็ดีกว่าวันเกิด”
‭‭ ~ปัญญาจารย์‬ ‭7‬:‭1‬ ‭THSV11‬‬
“A good name is better than precious perfume,
And the day of one’s death better than the day of one’s birth.”
‭‭ ~Ecclesiastes‬ ‭7‬:‭1‬ ‭AMP‬‬

ในพระธรรมปัญญาจารย์ เปิดเผยถึง8สิ่งที่ดีกว่า ดังนี้

1.ชื่อเสียงดีก็“ดีกว่า”(มีค่ายิ่งกว่า)น้ำมันหอมอย่างดี(ราคาแพง)
2.วันตายก็”ดีกว่า“วันเกิด
3.ไปยัง(บ้าน)เรือนที่มีการคร่ำครวญ(ไว้ทุกข์)
ก็“ดีกว่า”ไปยัง(บ้าน)เรือนที่มีการ(งาน)เลี้ยงกัน
1).เพราะ(ความตาย)นั่นเป็นวาระสุดท้าย(จุดหมายปลายทาง)ของมนุษย์ทุกคน
2).ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่(ควร)จะเอาเหตุการณ์นั้น(ในข้อนี้)ใส่ไว้ในใจ
4.ความโศกเศร้าก็”ดีกว่า“การหัวเราะ
เพราะความโศกเศร้าบนใบหน้า(เป็นผลดีต่อจิตใจ)ทำให้จิตใจยินดี
1).จิตใจแบบของคน(ฉลาด)มีปัญญา ย่อม(พบได้)อยู่ในเรือนที่มีการคร่ำครวญ(โศกเศร้า)
2).แต่จิตใจแบบของคน(โง่)เขลา ย่อม(พบได้)อยู่ใน(บ้าน)เรือนที่มีการสนุกสนาน(รื่นเริง)
5. ฟังคำตำหนิของคนฉลาดที่มีปัญญา ยัง“ดีกว่า”ฟังเพลง(สรรเสริญเยินยอ)ของคนโง่เขลา
1).เสียงเรียวหนามไหม้แตกอยู่ใต้หม้อ(เสียงแตกปะทุของหนามในไฟใต้หม้อ)อย่างไร
เสียงหัวเราะของคนโง่เขลาก็เป็นอย่างนั้น
นี่ก็อนิจจังด้วย
2).แท้จริง(เมื่อคนฉลาดกดขี่ผู้อื่น)
การกดขี่ข่มเหงทำให้ผู้มีปัญญา(ทำตัวเหมือนคน)โง่ไป และ
3).(เมื่อรับ)สินบนก็ทำลายสามัญสำนึกเสีย (ทำให้ชีวิตเสื่อมทราม)
6.(ตอนจบ)เบื้องปลายของสิ่งใดๆ ก็“ดีกว่า”(เริ่มต้น)เบื้องต้นของสิ่งนั้นๆ
7.จิตใจที่(อดทน)อดกลั้นก็“ดีกว่า”จิตใจ(ความเย่อหยิ่งจองหอง)ที่อหังการ
1).อย่า(ปล่อย)ให้จิตใจของเจ้าโกรธเร็

พระธรรมนำชีวิต
ตอน จะตอบลูกหลานยังไงดี Ep.981

ในการศึกษาการเติบโตเปลี่ยนแปลงจะมีช่วงอายุนึงของเด็ก ที่เขาจะเป็นนักสงสัย พวกเขาจะถามทุกเรื่อง ข้อมูลที่เราป้อนเข้าไปในเขา จะติดอยู่ในความทรงจำ ซึ่งสิ่งที่เราใส่เข้าไปในเขาจะเปลี่ยนมาเป็นทัศนะคติ ค่านิยม เป็นกรอบความคิดที่ส่งผลไปเป็นพฤติกรรมของเขาในอนาคต วันนี้เราตอบคำถามหรือป้อนข้อมูลอะไรเข้าไปอยู่ในลูกหลานของเรา นั่นหมายความว่าในอนาคตเขาเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับคำตอบของเราในวันนี้ เราจะตอบเขายังไงดี

“ในอนาคต บุตรของท่านจะถามท่านว่า ‘พระโอวาท กฎเกณฑ์และกฎหมายซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราทรงบัญชาท่านทั้งหลายไว้นั้นมีความหมายว่าอะไร?’”
‭‭เฉลยธรรมบัญญัติ‬ ‭6‬:‭20‬ ‭

คำถามที่โมเสสตั้งขึ้นมานั้น เขามีคำตอบให้ผู้ฟังเลย โดยคำตอบพาย้อนไปเล่าถึงอดีตที่พระเจ้าช่วยเขาจากการเป็นทาส ออกมาด้วยฤทธิ์อำนาจที่ยิ่งใหญ่ ผ่านการอัศจรรย์อย่างมาก เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าที่ซื่อสัตย์ รักษาสัญญาของพระองค์เสมอ ต่อจากนั้นได้บอกถึงที่มาของถ้อยคำและสิ่งต่างๆที่ต้องทำ

“พระยาห์เวห์ทรงบัญชาให้เราทำตามกฎเกณฑ์เหล่านี้ทั้งสิ้น คือให้ยำเกรงพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราเพื่อเป็นผลดีแก่เราเสมอ เพื่อจะทรงรักษาชีวิตของเราไว้ให้คงอยู่จนทุกวันนี้”
เฉลยธรรมบัญญัติ‬ ‭6‬:‭24‬ ‭

ตรงนี้โมเสสได้มองข้ามไปถึงคนในรุ่นที่ 3 คือลูกหลานของคนที่ฟังอยู่ หากเขาไม่เล่าความเป็นมาของปู่ย่า ตายาย เด็กเหล่านั้นจะไม่รู้เลยว่าทำไมต้องเชื่อฟังทำตามถ้อยคำและสิ่งต่างๆที่พระเจ้ากำหนดให้ทำ โมเสสย้ำอีกครั้งว่าการเขื่อฟังทำตามนี้ไม่ใช่เพื่อพระเจ้า แต่เพื่อตัวของคนท

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (69)

จะกระวนกระวายไปทำไม?

“อย่ากระวนกระวายในสิ่งใดๆ เลย
แต่จงทูลพระเจ้าให้ทรงทราบทุกสิ่งที่พวกท่านขอ
โดยการอธิษฐานและการวิงวอน พร้อมกับการขอบพระคุณ”
‭‭ ~ฟีลิปปี‬ ‭4‬:‭6‬ ‭THSV11‬‬
“Do not be anxious about anything,
but in every situation, by prayer and petition, with thanksgiving, present your requests to God.”
‭‭ ~Philippians‬ ‭4‬:‭6‬ ‭NIV‬‬

คุณเห็นด้วยหรือไม่ครับ
กับคำกล่าวต่อไปนี้ ที่ว่า

“ คนที่กลัวว่าเขาจะทนทุกข์
คนๆนั้นได้ทุกข์ทนกับสิ่งที่เขากลัวไปเรียบร้อยแล้ว!”
(He who fears he shall suffer,
already suffers what he fears.)
— Michel de Montaigne

ใช่ครับ คนเรามักกลัว วิตกกังวล หรือ กระวนกระวายเกินเหตุกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างไม่สมควร

พระเยซูคริสต์ตรัสเตือนเรา ว่า

“ 1.อย่ากระวนกระวายถึงชีวิตของตนว่า
1).จะเอาอะไรกิน หรือ
2).จะเอาอะไรดื่ม
2.อย่ากระวนกระวายถึงร่างกายของตนว่าจะเอาอะไรนุ่งห่ม ”

พระเยซูตรัสต่อไปว่า

“ 1.ชีวิตสำคัญยิ่งกว่าอาหารไม่ใช่หรือ? และ
2.ร่างกายสำคัญยิ่งกว่าเครื่องนุ่งห่มไม่ใช่หรือ? ”

พระเยซูทรงยกตัวอย่างของ
1.นก กับ
2.ดอกไม้
มาอธิบายว่า พวกมันที่ไม่ได้กระวนกระวาย เพราะพระเจ้า
1).ทรงห่วงใยและ
2).ทรงเลี้ยงดู
พวกมัน
แต่ พวกเรานั้น สำคัญมากยิ่งกว่าพวกมันเสียอีก

“1.จงดูนกทั้งหลายบนฟ้า พวกมัน
1).ไม่ได้หว่าน
2).ไม่ได้เกี่ยว
3).ไม่ได้รวบรวมไว้ในยุ้งฉาง
แต่พระบิดาของพวกท่าน ผู้สถิตในสวรรค์ทรงเลี้ยงพวกมันไว้
ก.ท่านไม่ประเสริฐกว่าพวกมันหรือ?
มีใครในพวกท่านที่โดยความกระวนกระวาย สามารถต่ออายุของตนให้ยืนนานขึ้นอีกนิดหนึ่งได้
ข.ท่านกระวนกระวายถึงเครื่องนุ่งห่มทำไม?
2.จงพิจารณาดูว่าดอกไม้ในทุ่งนานั้นเติบโตขึ้นอย่างไร
1).มันไม่ทำงาน
2).มันไม่ปั่นด้าย
แต่เราบอก

พระธรรมนำชีวิต
ตอน กำจัดทำลายให้สิ้นซากหรือยัง Ep.980

จากเมื่อวานมีคำสั่งว่า จงทำสิ่งที่ถูกต้องและดีงามในสายพระเนตรของพระเจ้า พวกเราคิดดูไหมว่า อะไรที่เราจะทำแล้วพระเจ้าจะทรงเห็นว่าสิ่งนั้นถูกต้องและดีงาม โมเสสได้ขยายความเรื่องนี้ต่อไปว่า

“โดยขับไล่ศัตรูทั้งสิ้นของท่านออกไปให้พ้นหน้าท่าน ดังที่พระยาห์เวห์ตรัสไว้” เฉลยธรรมบัญญัติ‬ ‭6‬:‭19‬

สิ่งที่ถูกต้องและดีงามในเวลานั้นคือ การขับไล่ศัตรู ใน TNCV ใช้คำว่ากำจัดศัตรูทั้งปวง กำจัดหรือขับไล่หมายความว่า ทำลายให้สิ้นซาก คือให้ทำลายทุกสิ่งที่อยู่ต่อหน้าพวกเขา หมายความว่า ทำลายทุกสิ่งที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขาออกจากพระเจ้าสิ่งที่ถูกต้องและดีงามในสายพระเนตรพระเจ้า มีอีกสิ่งนึงที่พระเจ้ามองว่าถูกต้องและดีงามในสายพระเนตรของพระองค์คือการทำตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสไว้ พระเจ้าทรงเป็นพระผู้สร้างดังนั้นสิทธิอำนาจทั้งหมดจึงเป็นของพระองค์ และทุกอย่างต้องเป็นไปตามความต้องการของพระเจ้า ดังนั้นความถูกต้องและดีงามในสายพระเนตรของพระเจ้าจึงต้องเกิดจากพระองค์เท่านั้น หากเราอยากทำในสิ่งที่ถูกต้องและดีงามในสายพระเนตรพระเจ้า ให้เราเชื่อฟังทำตามถ้อยคำของพระเจ้าทุกอย่าง

“เพราะฉะนั้น เมื่อเรามีพยานมากมายอยู่รอบข้างอย่างนี้แล้วก็ขอให้เราละทิ้งทุกอย่างที่ถ่วงอยู่ และบาปที่เกาะแน่น ขอให้เรายังคงวิ่งแข่งด้วยความทรหดอดทนในการแข่งขันที่อยู่ข้างหน้าเรา” ฮีบรู‬ ‭12‬:‭1‬ ‭
สำหรับเราในยุคพันธสัญญาใหม่เรื่องราวทุกอย่างในพันธสัญญาเดิมก็เป็นพยานยืนยันให้เราทำในสิ่งที่ถูกต้องและดีงามในสายพระเนตรพระเจ้า เราก็ต้องขับไล่ กำจัด ท

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (68)

อะไรคือสิ่งที่ถ่วงคุณอยู่ ในเวลานี้?

“เพราะฉะนั้น เมื่อเรามีพยานมากมายอยู่รอบข้างอย่างนี้แล้ว
ก็ขอให้เราละทิ้งทุกอย่างที่ถ่วงอยู่ และบาปที่เกาะแน่น
ขอให้เรายังคงวิ่งแข่งด้วยความทรหดอดทนในการแข่งขันที่อยู่ข้างหน้าเรา”
‭‭ ~ฮีบรู‬ ‭12‬:‭1‬ ‭THSV11‬‬
“Such a large crowd of witnesses is all around us!
So we must get rid of everything that slows us down,
especially the sin that just won't let go.
And we must be determined to run the race that is ahead of us.”
‭‭ ~Hebrews‬ ‭12‬:‭1‬ ‭CEV‬‬

จอห์น บันยัน ผู้เขียนวรรณกรรมโด่งดังของโลก” Pilgrim’s Progress “กล่าวว่า

“รูรั่ว เพียงรูเดียวสามารถทำให้เรือจม
ความบาปเพียงบาปเดียว ก็สามารถทำลายชีวิตของคนบาปได้เช่นกัน“
( One leak will sink a ship:
and one sin will destroy a sinner.)
~John Bunyan(1628-1688)

ดังนั้น อย่าให้มีบาปใดที่ยังเกาะแน่นในชีวิตของเรา
จงทิ้งทิ้งมัน ก่อนที่มันจะทำให้ชีวิตเราพัง และจมอยู่ในความทุกข์อับอาย
เหมือนกับที่บรรดาคนแห่งความเชื่อได้กระทำมาให้เห็นเป็นแบบอย่าง
ดังที่ผู้เขียนพระธรรม ฮีบรู กำชับไว้ว่า

“เพราะฉะนั้น เมื่อเรามีพยานมากมายอยู่รอบข้างอย่างนี้แล้วก็

1.ขอให้เราละทิ้งทุกอย่างที่ถ่วงอยู่
คำถาม:
“ วันนี้มีอะไรบ้างที่ยังถ่วงคุณอยู่
ทำให้คุณ
1).ติดตามพระเจ้าไม่ได้ หรือ
2).เป็นพยาน หรือ รับใช้พระเจ้าไม่ได้?
จะปล่อยมันถ่วงคุณต่อไป หรือคุณจะกล้าหาญ
ก.เผชิญหรือ
ข.จัดการ กับมัน?
และจะทำอย่างไร?“

2.ขอให้เราละทิ้งบาปที่เกาะแน่น
คำถาม:
” เวลานี้ บังมีบาปอะไรที่เกาะแน่น ใน
1).ความคิด
2).จิตใจ
3).จิตวิญญาณ
4).คำพูด
5).พฤติกรรมที่คุณทำอยู่?
คุณจะสมัครใจจัดการกับมันเอง หรือ
คุณจะให้พระเจ้าทรงช่วยคุณในการจัด