Soul Food Podcasts Soul Food Ministries

พระธรรมนำชีวิต
ตอน หิวไหม? Ep.991

ปัญหาใหญ่ที่สุดที่คนจะละทิ้งพระเจ้าไปติดตามสิ่งอื่นคือเรื่องปากท้องและการใช้ชีวิตที่ยากลำบาก โมเสสได้ย้ำเตือนคนอิสราเอลที่กำลังจะเข้าดินแดนแห่งพระสัญญาให้รู้และจำให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพระเจ้ากับพ่อแม่ของพวกเขา

“ท่านทั้งหลายได้ทำให้พระยาห์เวห์ทรงพระพิโรธที่ทาเบ-ราห์ และที่มัสสาห์ และที่ขิบโรทหัทธาอาวาห์
‭‭เฉลยธรรมบัญญัติ‬ ‭9‬:‭22‬

พ่อแม่ของพวกเขาทำให้พระเจ้าโกรธที่ทาเบ-ราห์ และที่มัสสาห์ และที่ขิบโรทหัทธาอาวาห์ ถ้าจะเรียงลำดับเหตุการณ์ตามเวลาจะต้องเริ่มที่มัสสาห์ ที่อพยพ 17 มัสสาห์ และเมรีบาห์ แปลว่า การทดลองและการต่อสู้ คนอิสราเอลลองดีกับพระเจ้าว่า “พระยาห์เวห์สถิตอยู่ท่ามกลางพวกข้าพเจ้าจริงหรือ? และมาหาเรื่องโมเสสจนจะเอาหินขว้างเขาให้ตายเพราะไม่มีน้ำดื่ม ต่อมาในกันการวิถึ 11 คือ ที่ทาเบ-ราห์ และที่ขิบโรทหัทธาอาวาห์ พ่อแม่ของพวกเขาบ่นว่าพระเจ้าเรื่องความลำบากเมื่อพระเจ้าได้ยินก็โกรธ มีไฟจากพระเจ้ามาไหม้พวกเขา พวกเขาจึงมาร้องต่อโมเสส และโมเสสอธิษฐานต่อพระเจ้าแล้วไฟก็ดับ เขาจึงเรียกชื่อที่นั่นว่าทาเบ-ราห์ ซึ่งแปลว่า ไห้มอยู่ เพราะไฟของพระเจ้ามาไหม้อยู่ท่ามกลางพวกเขา ในเรื่องนั้นพวกเขาบ่นว่าพระเจ้าว่าลำบากเพราะไม่มีอะไรกินเหมือนในอียิปต์ แถมบ่นพระเจ้าว่าเอาแต่อะไรก็ไม่รู้มาให้กิน (มานา) พระเจ้าก็ประทานนกคุ่มให้พวกเขากิน ในระหว่างที่กินนั้นพระเจ้าทรงประหารพวกเขาด้วยภัยพิบัติ สถานที่นั้นจึงมีชื่อว่า ขิบโรทหัทธาอาวาห์ แปลว่า หลุมศพแห่งความอยากอาหาร พระเยซูเองก็เคยถูกทดสอบเรื่องความหิว แต่พระเยซูชนะเพราะทรงต่อสู้กับกา

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (79)

คุณหลั่งเลือดสู้บาปแล้วหรือยัง?

“ในการต่อสู้กับบาปนั้น
ท่านยังไม่ได้สู้จนถึงกับต้องหลั่งเลือดเลย”
‭‭ ~ฮีบรู‬ ‭12‬:‭4‬ ‭THSV11‬‬
“In your struggle against sin,
you have not yet resisted to the point of shedding your blood.”
‭‭ ~Hebrews‬ ‭12‬:‭4‬ ‭NIV‬‬

Joan of Arc(1412~1431) กล่าวว่า

“ ข้าพเจ้าเลือกที่จะตายดีกว่า
ที่จะทำบางสิ่ง ที่ข้าพเจ้ารู้ว่านั่นเป็นความบาป
หรือเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับน้ำพระทัยของพระเจ้า!”
(I would rather die
than do something which I know to be a sin,
or to be against God's will.)

เราต้องต่อสู้ และจัดการกับบาป
เราต้องไม่ยอมแพ้ต่อบาป และไม่ยอมทำบาป
เราต้องกำจัดบาป ก่อนที่บาปจะกำจัดเรา!

และเราจำเป็นต้องรู้ก่อนว่า บาปนั้นร้ายกาจและร้ายแรงแค่ไหน?

แล้วเรารู้อะไรบ้างเกี่ยวข้องกับบาปจากพระคัมภีร์?

1.เราต้องรู้ว่าบาปนำโทษคือความตายมาให้กับเรา

“เพราะว่าค่าจ้างของความบาปคือความตาย แต่ของประทานจากพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา”
‭‭ ~โรม‬ ‭6‬:‭23‬ ‭TH1971‬‬

2.เราต้องรู้ว่าพระเจ้าจะจัดการกับบาป และตัวของเรา เมื่อเราทำบาป

“ถ้าข้าพระองค์ทำบาป พระองค์ทรงหมายข้าพระองค์ไว้ และ
ไม่ทรงปล่อยตัวข้าพระองค์ให้พ้นโทษความบาปผิดของข้าพระองค์”
‭‭ ~โยบ‬ ‭10‬:‭14‬ ‭TH1971‬‬

3.เราต้องรู้ว่า ถ้าเราทำบาปเราจะไม่สามารถยืนยงอยู่ได้ ในวันที่พระเจ้าพิพากษา

“เหตุฉะนั้นคนอธรรมจะไม่ยั่งยืนอยู่ได้ เมื่อถึงคราวพระเจ้าทรงพิพากษา หรือคนบาปไม่ยืนยงในที่ชุมนุมของคนชอบธรรม”
‭‭ ~สดุดี‬ ‭1‬:‭5‬ ‭TH1971‬‬

4.เราต้องระวัง อย่าให้บาปตะครุบเราได้

“ถ้าเจ้าทำดี เราก็จะพอใจรับเจ้ามิใช่หรือ ถ้าเจ้าทำไม่ดี
บาปก็หมอบอยู่ที่ประตู อยากตะครุบเจ้า เจ้าจะต้องเอาชนะบาปนั้นให้ได้>>”
‭‭

พระธรรมนำชีวิต
ตอน หยุดเป็นคนกบฎ Ep.990

พระเจ้ายังคงเป็นพระเจ้าองค์เดิมที่ยังเกลียดชังความบาป และโกรธจนต้องการจะทำลายมนุษย์ทุกครั้ง แต่เพราะพระเจ้าเป็นความรัก พระองค์จึงยับยั้งความต้องการของพระองค์ ด้วยพระเยซูที่ยอมสละพระองค์เองมาเป็นมนุษย์ เรื่องราวในวันนี้โมเสสพาคนอิสราเอลที่ออกจากการเป็นทาสรุ่นที่ 2 ได้รู้และจำให้ได้ว่าพ่อแม่ของพวกเขาได้ทำอะไรไว้กับพระเจ้าบ้าง

“เพราะฉะนั้นท่านพึงทราบเถิดว่า ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานแผ่นดินดีนี้ให้ท่านยึดครองนั้น ไม่ใช่เพราะความชอบธรรมของท่าน เพราะว่าท่านเป็นชนชาติที่หัวแข็ง”
‭‭เฉลยธรรมบัญญัติ‬ ‭9‬:‭6‬ ‭

โมเสสอยากให้เขารู้และเข้าใจว่าที่พระเจ้าประทานดินแดนนั้นให้ไม่ใช่เพราะความดีของพวกเขา โมเสสจึงบอกย้ำพวกเขาอีกครั้ง แล้วจบด้วยคำที่พระเจ้าตรัสบอกโมเสสว่า คนอิสราเอลเป็นคนดื้อ หัวแข็ง

“จงจำไว้และอย่าลืมว่า ท่านได้ทำให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงพระพิโรธที่ในถิ่นทุรกันดาร ตั้งแต่วันที่ท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ จนกระทั่งพวกท่านมาถึงสถานที่นี้ พวกท่านมักกบฏต่อพระยาห์เวห์อยู่เรื่อยมา” เฉลยธรรมบัญญัติ‬ ‭9‬:‭7‬ ‭

โมเสสได้เล่าเรื่องราวหลายเรื่องที่พ่อแม่ของเขาทำที่เป็นการยั่วยุให้พระเจ้าโกรธพระเจ้าจนพระเจ้าต้องการทำลายพวกเขา ในพระวจนะของพระเจ้าเรียกการกระทำนี้ว่าเป็นกบฎ ขอให้พวกเราหยุดสิ่งนั้นที่ทำอยู่ เพราะเราจะถูกนับว่าเป็นกบฎเมื่อหมดเวลาคนกบฎต้องถูกลงโทษเสมอ ให้เราคิดถึงและรู้ว่ามนุษย์อย่างเรายังยั่วยุความโกรธของพระเจ้าอยู่ โมเสสได้ได้เล่าเรื่องราวแรกที่พ่อแม่เขาทำ ซึ่งเป็นไปได้ว่าบางคนที่ฟังอยู่น

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (78)

เห็นเหมือนน้อยวัน เพราะฉันรักเธอ!

“ยาโคบก็รับใช้อยู่เจ็ดปีเพื่อได้ราเชล
เห็นเป็นเหมือนน้อยวันเพราะเขารักเธอ”
‭‭ ~ปฐมกาล‬ ‭29‬:‭20‬ ‭THSV11‬‬
“So Jacob served seven years to get Rachel,
but they seemed like only a few days to him because of his love for her.”
‭‭ ~Genesis‬ ‭29‬:‭20‬ ‭NIV‬‬

คุณเห็นด้วยกับคำกล่าวต่อไปนี้หรือไม่ที่ว่า

“ คำๆ เดียว ที่ปลดปล่อยเราจากภาระอันแสนหนัก
และความเจ็บปวดทั้งปวงในชีวิต
คือๆนั้นคือคำว่า‘รัก!”
(One word frees us of all the weight and pain of life:
That word is love.)
― Sophocles.

ในพระคัมภีร์มีเรื่องราวความรักที่โดดเด่นของยาโคบ
ที่มีต่อราเชลหญิงที่เขารักอย่างลึกซึ้ง
จนกระทั่งเขายอมทำงานที่หนักอย่างยาวนานเพื่อพิสูจน์ความรักแท้
ต่อราเชล

ซึ่งกลายมาเป็นเรื่องราวความรักที่น่าประทับใจยิ่งนัก ดังนี้

“1.ยาโคบโดยการวางแผนของแม่ ไปหลอกแย่งสิทธิบุตรหัวปีจากเอซาวพี่ชาย
2.เอซาวโกรธมาก ประกาศว่าจะฆ่ายาโคบ
3.เรเบคาห์ผู้เป็นแม่จึงส่งยาโคบให้ลี้ภัยไปอยู่กับลาบันพี่ชายของนาง
4.ยาโคบเดินทางมาจนถึงบ้านเกิดของมารดาและได้พบราเชลบุตรสาวของลาบัน
5.ยาโคบจูบราเชลแล้วร้องไห้เสียงดัง บอกราเชลว่าเขา
1).เป็นญาติของบิดาเธอ
2).เป็นบุตรชายของนางเรเบคาห์ น้าของเธอ
6.ราเชลก็วิ่งไปบอกลาบันบิดาของเธอ
7.ลาบันได้ยินข่าวถึงยาโคบบุตรน้องสาวของเขา ก็
1).วิ่งไปพบ และ
2).กอดจูบยาโคบ
3).พาเขามาบ้าน
8. ยาโคบเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ลาบันฟัง
9. ลาบันจึงพูดกับยาโคบว่า
“เจ้าเป็นเลือดเนื้อของเราแท้ๆ”
10.ยาโคบก็พักอยู่กับลาบันเดือนหนึ่งและทำงานได้ดี
11.ลาบันพูดกับยาโคบว่า “เพราะ
1).เจ้าเป็นญาติของเรา
2).เจ้าจึงไม่ควรที่เจ้าจะทำงานให้เราเปล่าๆ
3).เจ้าจะเรียกค่าจ้างเท่าไร?
จงบอกม

พระธรรมนำชีวิต
ตอน พระคุณ Ep.989

ความคิดของโลกหล่อมเราให้เราเป็นต้องมีความเก่ง ต้องมีความสามารถในทุกด้าน เพื่อสิ่งที่มีนั้น จะนำสิ่งที่ต้องการมาให้ แต่หลักการและเหตุผลนี้ใช้กับพระเจ้าไม่ได้ สิ่งที่เราได้รับจากพระเจ้าคือพระคุณ เป็นสิ่งที่ตัวเราไม่สมควรจะได้รับ แต่พระเจ้ายังทรงประทานให้

“วันนี้ท่านจงทราบเถิดว่า ผู้ที่ไปดุจเพลิงเผาผลาญข้างหน้าท่านนั้นคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน พระองค์จะทรงทำลายพวกเขาและทรงทำให้เขาพ่ายแพ้ต่อหน้าท่าน ดังนั้นท่านจะขับไล่เขาออกไป และทำลายเขาอย่างรวดเร็ว ดังที่พระยาห์เวห์ทรงสัญญาไว้กับท่านแล้ว”
เฉลยธรรมบัญญัติ‬ ‭9‬:‭3‬ ‭

ในบทนี้เริ่มต้นด้วยการเรียกให้คนอิสราเอลฟัง โมเสสบอกว่า พวกเขากำลังจะข้ามเข้าไปยึดครองดินแดนที่ยิ่งใหญ่และเข้มแข็งกว่าพวกเขามาก เมืองนั้นใหญ่และมีกำแพงสูง ตัวของคนในเมืองนั้นก็เป็นมนุษย์ยักษ์สูงใหญ่และแข็งแรง จนผู้คนพูดกันว่า “ใครจะต่อสู้พวกมนุษย์ยักษ์อานาคได้?” ใช่ใครจะสู้ยักษ์ หรือปัญหาที่ใหญ่โต ใครจะโดดข้ามกำแพงที่สูงเสียดฟ้าได้ พระเจ้าทรงยืนยันผ่านโมเสสให้คนอิสราเอลและเราทุกคนมั่นใจว่าพระเจ้าจะนำหน้าเราไป พระองค์จะทรงทำลายล้าง ปราบสิ่งกีดขวางลง พระองค์จะขับไล่และกวาดล้างพวกเขาออกไปโดยเร็ว ตามที่พระเจ้าไดทรงสัญญาไว้ ขอให้เราไว้วางใจว่าปัญหาทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้านั้นพระเจ้าจะจัดการให้ เพียงแต่เราต้องให้พระเจ้านำหน้าเราเสมอ

“เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงขับไล่เขาออกไปต่อหน้าท่านแล้ว ท่านอย่านึกในใจว่า ‘เพราะความชอบธรรมของข้า พระยาห์เวห์จึงทรงนำข้าให้มายึดครองแผ่นดินนี้’ แต่เพราะความชั่วของป

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (77)

เธอได้ A

“อยู่ที่มุมดาดฟ้า
ดีกว่าอยู่ร่วมชายคากับภรรยาที่ชอบหาเรื่อง”
‭‭ ~สุภาษิต‬ ‭21‬:‭9‬ ‭TNCV‬‬
“It is better to live in a corner of the housetop
than in a house shared with a quarrelsome wife.”
‭‭. ~Proverbs‬ ‭21‬:‭9‬ ‭ESV‬‬

“ศาสตราจารย์ท่านหนึ่งได้ใส่หนูตัวผู้ตัวหนึ่งเข้าไปกลางกรงใหญ่
ซึ่งด้านหนึ่งเป็นขนมเค็ก และ อีกด้านหนึ่งเป็นหนูตัวเมีย1ตัว....

ผลปรากฏว่า หนูตัวผู้วิ่งไปหาขนมเค็กโดยไม่แยแสหนูตัวเมีย!!

ศาสตราจารย์ท่านนี้ได้เปลี่ยนขนมเค็กเป็นขนมปัง...
ผลการทดลองก็ยังเหมือนเดิม
หนูตัวผู้ยังคงวิ่งไปหาขนมปัง..โดยไม่สนใจตัวเมีย...

และทุกครั้งที่ท่านศาสตราจาย์เปลี่ยนอาหาร...
ไม่ว่าจะเป็นอาหารอะไร
หนูตัวผู้ตัวนี้ก็จะวิ่งไปหาอาหารทุกที...

ศาสตราจารย์ท่านนี้จึงสรุป
ผลการทดลองครั้งนี้ว่า...
อาหารคือสิ่งสำคัญที่ดึงดูดความสนใจของหนูตัวผู้....

ทันใดนั้น นักศึกษาที่นั่งอยู่แถวหลัง
ก็ส่งเสียงขึ้นมาว่า....

"อาจารย์ครับ ทำไมไม่ลองเปลี่ยนหนูตัวเมียเป็นตัวอื่นบ้าง??...
หนูตัวนี้อาจเป็นเมียของมันก็ได้ครับ!!!"

ศาสตราจารย์ท่านนี้ ลุกยืนขึ้น และชี้นิ้วไปที่นักศึกษาคนนั้นกล่าวเสียงดังว่า.......
“เธอได้ A”

แม้ว่า เรื่องข้างต้นจะเป็นเรื่องเล่าสนุกๆชวนขบขัน ที่ไม่รู้ ที่มาที่ไป
แต่เราทั้งหลายต่างตระหนักว่ามีความจริง แฝงอยู่ในเรื่องที่เล่านั้น
นั่นคือบางครั้งผู้เป็นภรรยาอาจสร้างปัญหาในบ้านโดยไม่รู้ตัว โดย
1).การชอบบ่น หรือ
2).การชอบหาเรื่อง
ตามความคิดของผู้เป็นสามี
(ซึ่งแน่นอนว่าฝ่ายผู้เป็นภริยาคงจะไม่ยอมรับความคิดเช่นนั้น)

และเพื่อความเป็นธรรมเราต้องกล่าวว่า
ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายต่างก็ไม่ชอบให้คู่สมรสของตนเป็นคนชอบบ่