
214 episodes

4 คลังพระสูตร วัดป่า ดอนหายโศก ฟังธรรมะ donhaisok
-
- Religion & Spirituality
-
-
4.8 • 27 Ratings
-
ดื่มด่ำ ซึมซาม ด้วยการฟังบทพยัญชนะที่มีความงดงามในเบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุด เป็นข้อมูลโดยตรงจากพระสูตรในพระไตรปิฏก เพื่อให้มีการตกผลึกความคิด เกิดเป็นความคลองปากขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยความเห็นได้.
New Episode ทุกวันพฤหัส เวลา 05:00, Podcast นี้เป็นส่วนหนึ่งของรายการธรรมะรับอรุณ ออกอากาศทุกวันทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (สวท.) มีคำถาม/ข้อเสนอแนะ หรือสมัครติดตามฟังทั้ง 7 รายการ ที่ donhaisok.fm
-
มารผู้ใจบาป-พรหมนิมันตนิกสูตร และมารตัชชนียสูตร [6532-4s]
สูตร#1 พรหมนิมันตนิกสูตร ทรงตรัสเล่าให้ภิกษุทั้งหลายฟัง ณ พระเชตวัน ทรงปรารภทิฏฐิชั่วของท้าวพกพรหม ทรงทราบด้วยพระทัยว่า ท้าวพกพรหมมีทิฏฐิชั่ว กล่าวสิ่งที่ไม่เที่ยงว่าเที่ยง สิ่งที่ไม่ยั่งยืนว่ายั่งยืน เป็นต้น จึงทรงเสด็จขึ้นไปยังพรหมโลก และได้โต้วาทะกัน ขณะนั้น มารใจบาปได้เข้าสิงในพรหมปาริสัชชะองค์หนึ่งให้กล่าวห้ามมิให้พระองค์ว่ากล่าวท้าวพกพรหม พร้อมทั้งขู่สำทับ แต่ทรงรู้ทันว่าเป็นมาร พรหมและพรหมบริษัททั้งปวงตกอยู่ในอำนาจของมารแต่พระองค์มิได้อยู่ในอำนาจนั้น ได้ทรงสำแดงพุทธานุภาพไม่ให้พกพรหมหายตัวได้ แต่ทรงแสดงหายตัวให้ดู และมารได้เข้าสิงพรหมอีกองค์หนึ่งเพื่อห้ามไม่ให้พระองค์ทรงสอนธรรมแก่สาวก และขู่สำทับแต่ทรงตรัสว่า ทรงรู้จักมารดี พระองค์จะสอนหรือไม่สอนก็ไม่ทำให้พระองค์ดีขึ้นหรือเลวลงเพราะทรงตัดอาสวะได้ขาดแล้ว ตัดรากถอนโคนเหมือนต้นตาลที่ถูกตัดรากถอนโคนไปแล้วเหลือแต่พื้นที่ ทำให้ไม่มี เกิดขึ้นต่อไปไม่ได้
สูตร#2 มารตัชชนียสูตร พระมหาโมคคัลลานะแสดงแก่มารที่เข้าสิงในท้องท่าน ขณะเดินจงกรม ณ เภสกฬาวัน สมัยนั้นพระมหาโมคคัลลานะจงกรมอยู่ ถูกมารเข้าไปในท้องในไส้ รู้สึกเหมือนมีของหนักอยู่ในท้อง จึงหยุดจงกรม กลับไปยังวิหาร นั่งพิจารณาแล้ว ทราบว่า มารใจบาปเข้าไปสิงอยู่ จึงเรียกให้มารออกมา เมื่อมารนั้นออกมาท่านจึงเทศน์สอน ได้ลำดับญาติระหว่างท่านกับมารตนนี้ให้ฟังว่า มารนี้เป็นลูกของน้องสาวและเล่าอดีตของท่านที่เคยเกิดเป็นทูสีมารได้เคยทำร้ายพระอริยสาวกต้องไปตกนรกถูกหลาวแทงหลายพันปี หลายหมื่นปี ท่านขอให้มารนั้นอย่าทำร้ายพระอริยสาวกเพราะจะส่งผลให้ไปตกนรกเหมือนที -
พุทธปฏิภาณ-พหุเวทนิยสูตร วีมังสกสูตร และอภัยราชกุมารสูตร [6531-4s]
สูตร#1 พหุเวทนิยสูตร ว่าด้วยเวทนาหลายประการ ทรงแสดงแก่ท่านพระอานนท์ ณ พระเชตวัน ทรงปรารภการสนทนาธรรมเรื่องเวทนา ระหว่างท่านพระอุทายี และช่างไม้ปัญจกังคะ ซึ่งตกลงกันไม่ได้ว่า เวทนามีเท่าไร ท่านพระอานนท์ได้ยินจึงไปทูลถาม ทรงตรัสว่า ทรงแสดงเวทนาไว้หลายประการ ขึ้นอยู่กับเหตุ ทรงยกสุขเวทนาขึ้นอธิบาย เริ่มด้วย กามสุขที่อาศัยกามคุณ 5 และสุขในรูปฌาน และอรูปฌาน
สูตร#2 วีมังสกสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน เพื่อให้ภิกษุผู้ไม่ได้เจโตปริยญาณ ทดลองตรวจสอบข้อปฏิบัติของพระองค์ เพื่อให้รู้ว่าพระองค์เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจริงหรือไม่ ต่อไปก็สามารถตรวจสอบตนเอง และผู้อื่นได้ ทรงอธิบายขยายความ และทรงเปิดโอกาสให้ภิกษุผู้ตรวจสอบทูลถามพระองค์ตามแนวทางการพิจารณาตรวจสอบนั้น ด้วยวิธีการดังกล่าวผู้นั้นก็จะมีศรัทธามั่นคงไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้า
สูตร#3 อภัยราชกุมารสูตร ทรงแสดงแก่อภัยราชกุมาร ซึ่งรับอาสานิครนถ์มาโต้วาทะกับพระองค์ ณ เวฬุวัน ปรารภคำถามว่า มีบ้างไหมที่พระองค์ตรัสวาจาอันไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของคนอื่น ทรงตรัสว่าจะตอบส่วนเดียวไม่ได้ ทรงแสดงหลักเกณฑ์การตรัสวาจาของพระองค์ 6 ข้อ เมื่อทรงแสดงจบ อภัยราชกุมารแสดงตนเป็นอุบาสกตลอดชีวิต -
เครื่องป้องกันนคร-นคโรปมสูตร และสัจจวิภังคสูตร [6530-4s]
สูตร#1 นคโรปมสูตร ทรงแสดงคุณสมบัติของพระอริยสาวก 7 ประการ ที่ทำให้ละอกุศล เจริญกุศลได้ เปรียบเทียบกับเครื่องป้องกันนคร 7 อย่าง ที่ทำให้นครที่ตั้งอยู่ชายแดนปราศจากภัยอันตรายได้ และทรงแสดงฌาน 4 ประการ ที่เป็นคุณสมบัติภายในของอริยสาวกซึ่งทำให้บรรลุคุณพิเศษชั้นสูงได้ เปรียบเทียบกับคุณสมบัติภายในของนครชายแดน 4 ประการ ที่ทำให้ชาวเมืองอยู่ผาสุกสูตร
#2 สัจจวิภังคสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ขณะประทับ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ทรงปรารภพระธรรมจักรที่ทรงแสดง ให้แก่ภิกษุเหล่านั้นฟังโดยย่อ ทรงแนะนำให้ภิกษุทั้งหลายคบหาท่านพระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ และทรงสรรเสริญท่านทั้งสองไว้ด้วย เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสดังนี้แล้ว ก็เสด็จเข้าสู่ที่ประทับ ท่านพระสารีบุตรจึงอธิบายขยายความให้ภิกษุทั้งหลายฟังต่อไป โดยอธิบายเรื่องอริยสัจ 4 โดยพิสดาร -
มุนีผู้สงบ - ธาตุวิภังคสูตร และชาณุสโสณิพราหมณสูตร [6529-4s]
สูตร#1 ธาตุวิภังคสูตร ว่าด้วยการจำแนกธาตุ ทรงแสดงแก่ท่านปุกกุสาติผู้บวชอุทิศต่อพระองค์แต่ไม่เคยรู้จักและไม่เคยเห็นพระองค์ เพื่อโปรดท่านให้เข้าถึงธรรม ขณะท่านพักอยู่ที่ศาลาของช่างหม้อชื่อ ภัคควะ เขตกรุงราชคฤห์ ทรงแสดงว่า บุรุษผู้มีธาตุ 6 มีผัสสายตนะ 6 มีมโนปวิจาร 18 มีอธิษฐานธรรม 4 บัณฑิตเรียกว่า มุนีผู้สงบ และทรงแสดงในรายละเอียด ผลจากการแสดงธรรมครั้งนี้ทำให้ท่านปุกกุสาติ ได้ทราบว่า ผู้ที่แสดงธรรมนั้น คือพระพุทธเจ้าจึงกราบลงแทบพระยุคลบาทของพระผู้มีพระภาคแล้วกราบทูลขออภัยโทษที่เรียกพระองค์ด้วยวาทะว่า"ผู้มีอายุ"เมื่อพระองค์ทรงยกโทษให้ จึงขออุปสมบทในพระพุทธศาสนา แต่ไม่มีบาตรและจีวรพระผู้มีพระภาคไม่ทรงอุปสมบทให้ ท่านจึงไปเที่ยวแสวงหาบาตรและจีวร แต่ถูกแม่โคขวิดตายเสียก่อน เมื่อภิกษุทั้งหลายเข้าไปทูลถามถึงคติภพของท่าน พระองค์ตรัสว่าท่านปุกกุสาติเป็นพระอนาคามี ไปเกิดในพรหมโลกและจะนิพพานในโลกนั้น
สูตร#2 ชาณุสโสณิพราหมณสูตร (สังยุตตนิกาย #19) ท่านพระอานนท์เห็นชาณุสโสณิพราหมณ์ขึ้นรถเทียมม้าขาวและตกแต่งส่วนต่างๆของรถด้วยสีขาว ออกจากกรุงสาวัตถีและมีคนชมว่ายานประเสริฐ จึงเข้าไปทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ในธรรมวินัยนี้สามารถบัญญัติยานอันประเสริฐได้หรือไม่ พระองค์ตรัสตอบว่า ได้ คือ อริยมรรคมีองค์ 8 ซึ่งเรียกว่า พรหมยานบ้าง ธรรมยานบ้าง รถพิชัยสงครามบ้าง -
รอยพระตถาคต-จูฬหัตถิปโทปมสูตร และชาณุสโสณิสูตร [6528-4s]
สูตร #1 จูฬหัตถิปโทปมสูตร ทรงแสดงแก่ชาณุสโสณิพราหมณ์ ณ เชตวัน เรื่องรอยของพระตถาคต 4 รอย ที่ปิโลติกปริพาชกใช้เป็นเครื่องพิสูจน์เหตุที่ตนเลื่อมใสอย่างยิ่งในพระพุทธเจ้า ทรงตรัสแก่ชาณุสโสณิพราหมณ์ว่า อุปมาด้วยรอยเท้าช้างของปิโลติกปริพาชกยังไม่สมบูรณ์ จึงทรงยกอุปมาขึ้นเพื่อไม่ให้ด่วนตัดสินว่า ช้างตัวนี้ใหญ่เพียงเพราะเห็นรอยเท้า แต่ทรงเน้นให้เห็นตัวจริง รอยของพระพุทธเจ้าก็ฉันนั้น แม้ภิกษุจะได้เห็นรอยทั้ง 4 รอยนี้ ก็ไม่ด่วนตัดสินว่า “พระผู้มีพระภาคเป็นอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรมเป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ดีแล้ว พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเป็นผู้ปฏิบัติดี จนกว่าจะได้บรรลุอาสวักขยญาณด้วยตนเอง ฯลฯ จึงตัดสินใจดังกล่าว ตรัสจบ ชาณุสโสณิประกาศตนเป็นอุบาสก
สูตร#2 ชาณุสโสณิสูตร (อังคุตตรนิกาย #24) พราหมณ์ทูลถามเรื่องทานว่า พวกตนได้ให้ทานอุทิศส่วนกุศลให้ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว พวกเขาจะได้รับหรือไม่ พระองค์จึงตรัสเรื่องฐานะและอัฏฐานะของผู้จะได้รับส่วนกุศล คือผู้ไปเกิดในภูมิที่เป็นฐานะเท่านั้นจึงควรได้รับส่วนกุศล ซึ่งได้แก่ ปรทัตตูปชีวีเปรต (เปรตผู้ต้องอาศัยส่วนกุศลของผู้อื่นเป็นอยู่) ส่วนภูมิอื่นมีมนุสสภูมิ เป็นต้น เป็นภูมิที่ไม่ได้ส่วนกุศล เพราะต่างก็มีอาหารของตน ชื่อว่า อัฏฐานะ และทรงตรัสว่า อกุศลกรรมบถ 10 ประการ และกุศลกรรมบถ 10 ประการ เป็นเหตุจำแนกสัตว์ให้ไปเกิดในภูมิต่าง ๆ และทรงย้ำว่า การให้ทาน ย่อมไม่เสียผล เป็นความดีความเจริญของทายกผู้ให้แน่นอน -
เหตุไม่สะดุ้งกลัว-ภยเภรวสูตร และชาณุสโสณิสูตร [6527-4s]
เหตุไม่สะดุ้งกลัว - ภยเภรวสูตร และ ชาณุสโสณิสูตร [6527-4s]
สูตร#1 ภยเภรวสูตร ทรงแสดงแก่ชาณุสโสณิพราหมณ์ ณ พระเชตวัน ทรงปรารภคำถามของพราหมณ์ว่า การอยู่เสนาสนะอยู่ลำบาก ทำให้สงบได้ยาก การอยู่โดดเดี่ยวก็หาความรื่นรมย์ได้ยาก ป่าทั้งหลายมักจะชักนำจิตของภิกษุผู้ไม่ได้สมาธิให้เกิดความหวาดหวั่นได้ ทรงอธิบายเหตุสะดุ้งกลัวการอยู่ในเสนาสนะป่า 16 ประการของสมณพราหมณ์พวกอื่น เปรียบเทียบกับเหตุไม่สะดุ้งกลัวการอยู่ในเสนาสนะป่าของพระองค์ และพระอริยะทั้งหลายซึ่งมีนัยตรงข้ามกัน และทรงอธิบายว่าขณะที่ยังไม่ได้ตรัสรู้ ทรงเลือกการอยู่เสนาสนะป่า และเมื่อความขลาดกลัวเกิดขึ้นในขณะที่ทรงอยู่ในอิริยาบถใดก็ทรงพิจารณาความขลาดกลัวให้หมดไปในอิริยาบถนั้น จะไม่ทรงเปลี่ยนอิริยาบถจนกว่าจะทรงกำจัดได้ แล้วทรงบำเพ็ญเพียรต่อไปจนได้ฌาณ 4 และวิชชา 3 แม้หลังจากตรัสรู้แล้ว ก็ยังทรงอยู่เสนาสนะป่าเป็นประจำ เพราะทรงเห็นอำนาจประโยชน์ 2 ประการ 1) เพื่อการอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน 2) เพื่อการอนุเคราะห์คนรุ่นหลังให้ถือปฏิบัติตาม เมื่อทรงอธิบายจบลง ซาณุสโสณิพราหมณ์เกิดความเลื่อมใส ประกาศตนเป็นอุบาสก
สูตร#2 ชาณุสโสณิสูตร (อังคุตรนิกาย#20) พราหมณ์เข้าเฝ้า และได้สนทนากันเรื่อง วิชชา 3 ของพวกพราหมณ์ ทรงตรัสว่า ผู้ได้วิชชา 3 ของพวกพราหมณ์เป็นอย่างหนึ่ง ผู้ได้วิชชา 3 ในอริยวินัยเป็นอย่างหนึ่ง แล้วทรงแสดงในรายละเอียด
สูตร #3 ชาณุสโสณิสูตร (สังยุตตนิกาย #16) พราหมณ์เข้าไปเฝ้าแล้วทูลถามว่า สิ่งทั้งปวงมี หรือว่าสิ่งทั้งปวงไม่มี ทรงตรัสตอบว่า ความเห็นอย่างนั้นเป็นความเห็นสุดโต่ง แล้วทรงแสดงปฏิจจสมุปบาทอันเป็นทางสายกลางแก่พราหมณ์
Customer Reviews
สาธุครับ
กราบพระอาจารย์ครับ
ดีมากๆเลยครับ
กราบขอบพระคุณอาจารย์และทีมงาน ได้ฟังพระสูตรเป็นplaylistsยาว และแปลคำบางคำที่เข้าใจยากให้เข้าใจง่ายขึ้นครับ