307 episodes

เสียงธรรมโดย Camouflage อ่านบทความธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ camouflagetalk.com

Camouflage - Dhamma Talk Camouflagetalk

    • Religion & Spirituality
    • 4.8 • 97 Ratings

เสียงธรรมโดย Camouflage อ่านบทความธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ camouflagetalk.com

    307.ท่านเลิกความเชื่อทั้งหมด

    307.ท่านเลิกความเชื่อทั้งหมด

    บรรยายเมื่อ 24-07-2565
    แท้จริงเรานักปฏิบัติธรรม สนใจแต่ความหมายจากการตัดสินและให้คุณค่าสิ่งต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น มากกว่าประสบการณ์ตรงต่อสิ่งนั้นๆ ในขณะนี้ว่ามันเป็นยังไง 
    เราสนใจแต่คุณค่าและความหมายของสิ่งที่เรามีประสบการณ์อยู่ ว่าสิ่งนั้นมันดีหรือไม่ดี ถ้ามันดี เราจะเอา ถ้ามันไม่ดี เราจะไม่เอา เราสนใจแต่เรื่องแบบนั้น 
    และนั่นหมายความว่า เราไม่เคยมีชีวิตที่เป็นปัจจุบันเลย 
    เราสนใจแต่เรื่องราว เนื้อหาของประสบการณ์ เราไม่สนใจแค่ประสบการณ์ ที่ไม่มีเรื่องราว 
    พระพุทธเจ้าท่านถึงบอกว่า ชีวิตหรือคำสอนของท่านนั้น เป็นแค่ประสบการณ์ ไม่ใช่หลักการ 
    แต่ก็เหมือนเดิม เราฟังไม่รู้เรื่อง เราจึงชอบหลักการ เราชอบหลักธรรม 
    ...
    ก่อนหน้าอริยสัจ 4 หัวใจของการมีชีวิตจริงๆ นั้น เรามีหรือยัง?
    เพราะถ้าเราเอาหลักอริยสัจ 4 ไปทำ นั่นคือความเชื่อเหมือนเดิม 
    ชีวิตที่แท้จริงนั้น…จริง แต่ไม่จริง 
    ชีวิตที่แท้จริงนั้น…จริง แต่เหมือนฝัน 
    ถ้าเราคิดถึงอดีตที่เคยผ่านมาในชีวิตของเรา…จริงไหม?
    ทุกเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง เหมือนฝันไหม?
    มันผ่านไปแบบ ไม่มีอะไร ผมเปรียบเปรยเฉยๆ 
    แต่ในความเป็นจริง มันคือชีวิตที่ไม่มีความยึดติดกับอะไร ชีวิตจึงเป็นจริงแต่เหมือนฝัน ไม่มีความจริงจังกับอะไรทั้งนั้น 
    เป็นแค่ประสบการณ์ ที่มันก็ผ่านไป ไม่มีใครเก็บมันเอาไว้ 
    เหมือนที่เราเคยได้ยินคำว่า ไม่มีอะไรน่าเอา น่าเป็น แต่มันอยู่ใน Sense ที่รู้สึกว่า หยิบอะไรก็ทุกข์ ยึดอะไรก็ทุกข์ อะไรๆ ก็ทุกข์ 
    แต่ผมไม่ได้หมายถึง Sense แบบนั้น 
    มันเป็น Sense ของชีวิตที่เบาสบายมากกว่า 
    เป็น Sense ของชีวิตที่เป็นปัจจุบันอย่างแท้จริง 
    และนี่คือความงามของชีวิต
    #Camouflage24-07-2565

    • 29 min
    306.สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าความเป็นพระอรหันต์

    306.สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าความเป็นพระอรหันต์

    บรรยายเมื่อ 16-07-2565
     
    การที่ใครสักคนนึงสามารถเข้าใจกระบวนการของอัตตาว่ามันทำงานยังไง มันทำอะไร มันเป็นแบบไหน
    ความเข้าใจแจ่มแจ้งในกระบวนการของอัตตา นั่นเรียกว่า “การปฏิบัติธรรม” 
    มีแต่กระบวนการของอัตตาเท่านั้นที่ต้องการความหลุดพ้น ต้องการความเป็นพระอรหันต์ ต้องการนั่น ต้องการนี่ ต้องการจะพ้นทุกข์ ต้องการจะไม่ทุกข์ ต้องการกระทบแล้วไม่กระเทือน ต้องการสัมผัสรสชาติอันบริสุทธิ์ ที่เขาเรียกว่า “พระอรหันต์” 
    อัตตาอยากได้ทุกอย่าง อยากได้ความสุขทุกรูปแบบที่อัตตาได้ยินมา อยากสัมผัสบรมสุขที่สูงส่ง เพราะมันช่วยเสริมอัตตาว่าเราได้รับความสุขนั้นแล้ว เราไปถึงที่นั่นแล้ว นี่คือหน้าที่ของมัน มันทำงานแบบนั้น 
    ...
    การปฏิบัติธรรมคือ การที่คนคนนึงสามารถจะเข้าใจอะไรก็ตาม ที่มีอยู่ในชีวิตนี้อย่างแจ่มแจ้ง และความเข้าใจนั้นจะเกิดขึ้นได้ คนคนนึงจะต้องมี #ความใส่ใจต่อชีวิตนี้อย่างสูงสุด 
    มีความใส่ใจต่อชีวิตนี้ในทุกอย่างที่มันกำลังเกิดขึ้น ใส่ใจมันอย่างไม่มีจุดหมาย ว่าใส่ใจมันแล้ว เราจะได้บทสรุปสักอันหนึ่ง แล้วคราวหน้าเราจะไม่เป็นแบบนี้อีก เพราะนั่นคือ เรื่องของอัตตา 
    เพียงแค่ใส่ใจและเข้าใจมันอย่างแจ่มแจ้ง ในทุกวัน ทุกขณะของชีวิต แค่นั้น ไม่มีใครจะได้อะไรทั้งนั้น 
    #เราจะไม่ใช่อัตตาที่ดีกว่านี้ 
    อย่าให้ไอเดียของอัตตาที่ดีกว่านี้ ยิ่งใหญ่กว่าความสามารถที่จะมีชีวิตและเข้าใจแต่ละขณะ 
    และผ่านกระบวนการที่เกิดขึ้นในแต่ละขณะของชีวิตนั้น อย่างซื่อตรงและแจ่มแจ้งกับมัน 
    เราต้องแยกให้ออกระหว่าง การที่เราต้องการพัฒนาอัตตาไปในทางที่สูงส่งขึ้น มีประสบการณ์ มีสภาวธรรมที่วิเศษ จนไปถึงไอเดียว่าอัตตานั้

    • 35 min
    305.แลกด้วยชีวิต ไม่ใช่ความคิด

    305.แลกด้วยชีวิต ไม่ใช่ความคิด

    บรรยายเมื่อ 13-07-2565
     
    คำสอนที่พระพุทธเจ้าสอนออกมา ถูกถ่ายทอดมาจากชีวิต ถูกถ่ายทอดออกมาจากประสบการณ์ของชีวิตของท่าน 
    แต่เราในฐานะผู้ฟัง เราใช้ความคิด ใช้เหตุผล และแปลมันเป็นหลักการ 
    เราไม่ได้ใช้ชีวิต ที่จะฟังคำสอนจากชีวิต 
    #เราไม่เคยแลกคำสอนด้วยชีวิต เราแลกมันด้วยความคิด 
    นี่คือบาทฐานสำคัญของการที่คนสักคนหนึ่ง ชีวิตสักชีวิตหนึ่ง จะมีความสามารถที่จะเข้าใจสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้ 
    และเมื่อเราไม่มีบาทฐานอันสำคัญอันนี้ ชีวิตหลังจากนั้นของเรา ก็จะเป็นการทำตามความคิด ในสิ่งที่เราให้คำจำกัดความกับแต่ละคำสอนของท่าน 
    และเราใช้ชีวิตที่เรียกว่า “ปฏิบัติธรรม” อยู่ภายใต้ความคิดของตัวเอง 
    นั่นคือการปฏิบัติธรรมของเรานั้น ไม่ได้ปฏิบัติตามคำสอนของท่าน เราแค่ปฏิบัติตามความสามารถในการแปล ด้วยความคิดของเราในสิ่งที่ท่านสอน และมีโอกาสสูงเหลือเกินที่เราแปลผิด 
    ...
    พระพุทธเจ้าท่านพูดถึงอริยสัจ 4 
    “อริยสัจ 4 ไม่ใช่วิธี 
    อริยสัจ 4 คือ ชีวิต” 
    เราไม่ใช่ปฏิบัติอริยสัจ 4 เพราะว่าเป็นคำสอนของท่าน เพราะว่าเป็นวิธีที่น่าจะถูกต้อง เพราะนั่นคือความคิด และความคิดมักจะประกอบด้วยอัตตา 
    และชีวิตที่เหลือหลังจากนั้น ก็เป็นการใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานของอัตตา 
    อัตตาเป็นคนควบคุมชีวิตนี้ ให้ไปในทิศทางของอริยสัจ 4 
    แต่ถ้าเรามีความลึกซึ้งกับชีวิตนี้ ชีวิตนี้นั้นหนีไม่พ้นความเป็นอริยสัจ 4 
    มันไม่ใช่ความรู้สึกว่า มันคือวิธีการที่เราเพิ่มเข้ามา 
    แต่โดยธรรมชาติของชีวิตนั้นเอง คือ อริยสัจ 4 
    และเมื่อชีวิตของคนๆ นึงคือความเป็นอริยสัจ 4 ความเป็นสัมมาทิฏฐิในอริยมรรค ก็ได้เกิดขึ้น 
    และเมื่อความเป็นสัมมาทิฏฐิในอริยมรรคได้เกิดขึ้น สั

    • 29 min
    304.ความหลงอันสมบูรณ์

    304.ความหลงอันสมบูรณ์

    บรรยายเมื่อ 09-07-2565
     
    ความสุขที่แท้จริงนั้น เปิดเผยตัวขึ้นมาได้ 
    ด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง 
    ด้วยหัวใจที่ไร้ทิศทาง 
    ด้วยหัวใจที่ไร้เดียงสา 
    ด้วยหัวใจที่มีอิสรภาพ 
    ด้วยหัวใจที่ไร้ขอบเขต 
    หัวใจที่เปิดออกหมดนั้น เชื่อมต่อกับทุกสิ่งทุกอย่าง 
    เป็นความงามของการมีชีวิต 
    เป็นความเมตตา 
    เป็นความเบิกบาน 
    เป็นความมีสมาธิ 
    เป็นความมีสติ 
    เป็นการรับรู้ทุกอย่างตามความเป็นจริง 
    เป็นความปกติ 
    เป็นนิพพาน 
    เป็นภาวะที่พ้นจากความปรุงแต่งทั้งปวง 
    เป็นภาวะที่ความรู้ตื่น ได้เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์...เต็มที่ 
    เป็นความเต็ม 
    เป็นความที่ไม่มีเจตนาใดๆ ของอัตตา ที่จะเคลื่อนออกไป พุ่งออกไป ส่งออกไปไหน และไม่ได้หมายความว่า เราต้องห้ามดู ห้ามฟัง หรือห้ามอะไรเลย 
    ความเต็มแบบนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับวิญญาณทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ 
    สิ่งเหล่านี้ที่ผมพูดถึงทั้งหมด #เกิดขึ้นจากหัวใจที่เปิดกว้าง ไม่ใช่เราฝึกที่จะมีมัน 
    ความรู้สึกที่ผมบอกทั้งหมด…แต่ยังไม่หมด…ไม่ใช่สิ่งที่ความคิดของอัตตาคิดว่า จะต้องทำยังไง ถึงจะรู้สึกได้แบบนี้ ไม่มีทางของความคิดเข้าไปสู่สิ่งๆ นี้ได้ 
    มีเพียงความสิ้นสลายไปของเจตนาแห่งอัตตา...สิ้นสลายไปอย่างถึงที่สุดของมัน หัวใจจึงจะสามารถที่จะเปิดกว้างได้ 
    แต่เมื่อผมพูดถึงความสิ้นสลายไปของอัตตา มันไม่ใช่การทำลายมัน เพราะนั่นคือเจตนาของอัตตาที่ซ้อนขึ้นไปอีก 
    แต่มันคือ......การเป็นอยู่กับขณะนี้...เข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้...เป็นอยู่กับมันอย่างสมบูรณ์ที่สุด โดยไม่มีเจตนาของอัตตาที่จะกระทำอะไรต่อมัน 
    การเป็นอยู่กับมันอย่างสมบูรณ์ที่สุด และสามารถจะเข้าใจแจ่มแจ้งกับความเป็นทั้งหมดของขณะนี้ โดย

    • 27 min
    303.เราเห็นชีวิตแค่เพียงส่วนเสี้ยว...ไม่เป็นทั้งหมด

    303.เราเห็นชีวิตแค่เพียงส่วนเสี้ยว...ไม่เป็นทั้งหมด

    บรรยายเมื่อ 02-07-2565
    เราไม่เคยจะอยู่ตรงกลางจริงๆ เราเขวไปทางดี 
    “ตรงกลาง” ไม่ใช่อยู่ระหว่าง “ดี” กับ “ไม่ดี” “ตรงกลาง” ไม่ใช่อยู่ระหว่าง “อัตตกิลมถานุโยค” กับ “กามสุขัลลิกานุโยค”“ตรงกลาง” ไม่ใช่อยู่ระหว่าง “ของคู่”แต่คำว่า “ตรงกลาง หรือ กลาง”คือ สามารถเห็นความเป็นจริงของ ของทั้งสองอย่าง ได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง และนั่นหมายความว่า ชีวิตนั้นไม่ถูกดึงดูดไปด้วย ดีและไม่ดี 
    คำว่า “จริง” นั้นครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในชีวิตเรานี้ และความจริงนั้นเอง คือความเป็นกลางถึงที่สุด 
    เพราะฉะนั้น ผมถามเรามาตลอดว่า ชีวิตเราจริงมั้ย? เป็นคำถามง่ายๆ ที่ตอบยาก และต้องใช้ชีวิตของพวกเราตอบ ไม่ใช่ใช้ความคิด
    นักปฏิบัติธรรมเราแค่อยู่ในเกมส์ เราไม่เคยรู้ว่าเราแค่อยู่ในเกมส์ของการอยู่ในฝั่งที่ดีและไม่เอาฝั่งที่ไม่ดี จริงๆ แล้ว เราอยู่ในเกมส์แค่นั้นเอง ซึ่งมันไร้สาระมาก 
    การปฏิบัติธรรมนั้นคือ #การรู้จักตัวเอง และนั่นคืออริยสัจ 4 มีแค่นี้ 
    นอกเหนือจากนั้นคือเกมส์ เกมส์ที่เราถูกล่อลวงมานานแสนนาน เกมส์ของบุญ เกมส์ของดี เกมส์ของบารมี เกมส์ของบริสุทธิ์
    ผมเคยพูดว่าเมื่อเรามีราคะเกิดขึ้น เราจะถูกสอนมาว่าให้ทำอสุภกรรมฐาน มันเป็นโปรโตคอลที่เราต้องทำ เป็นโปรโตคอลที่เรารู้สึกว่า เพราะราคะเป็นสิ่งไม่ดี เราต้องรีบกำจัดมันทิ้งไปซะด้วยการทำอสุภกรรมฐาน เรามีไอเดียแบบนั้นต่อราคะ
    แทนที่เราจะเอาอริยสัจ 4 เข้าไปจับกิเลสตัวนั้น ว่าราคะคืออะไร มันมาจากไหน มันเป็นยังไง มันกำลังแสดงความจริงยังไง มันบีบคั้นยังไง มันสิ้นสุดที่ตรงไหน เราไม่ทำแบบนั้น เราทำอสุภกรรมฐานเพื่อให้มันหายไป เพื่อกลบมัน
    มีเรื่องไร้สาระอีกหลายอย่

    • 30 min
    302.ก่อนที่การตื่นรู้จะเกิดขึ้นได้จริง

    302.ก่อนที่การตื่นรู้จะเกิดขึ้นได้จริง

    บรรยายเมื่อ 25-06-2565
     
    302.ก่อนที่การตื่นรู้จะเกิดขึ้นได้จริง
    สันติภาพไม่ว่าจะในครอบครัว ในสังคม หรือในโลกนี้ ไม่สามารถเกิดขึ้นจากการที่คนๆ นึง ยึดว่าสิ่งที่ตัวเองคิดนั้นถูก 
    แต่เกิดขึ้นจากการที่คนๆ นึง
    ...เห็นความเป็นทั้งหมดของตัวเอง...เห็นความยึดทั้งหมดที่มีอยู่ในตัวเอง 
    และการเห็นเรื่องเหล่านั้น...
    ...จะต้องมีความใส่ใจเป็นอย่างยิ่งต่อทุกขณะของชีวิต
    ...จะต้องมีความซื่อตรงต่อทุกขณะของชีวิต 
    ...จะต้องไม่หลงกลต่อการตัดสินในเชิงของคู่ทั้งหลาย ที่แทรกเข้ามาในขณะนั้นๆ 
    #ให้ทุกอย่างนั้นเปิดออก แบออก 
    เปิดทุกอย่างออก อย่างเปิดเผย อย่างแท้จริง และเห็นมันทั้งกระดาน 
    เห็นมันทั้งกระดานอย่างแท้จริง โดยไม่มีไอเดียเกี่ยวกับความรู้ หลักการ หรือตัวอย่างในอดีต ที่จะเข้ามาทำให้การเห็นขณะนี้ของเราบิดเบือนไปจากความจริง 
    เราต้องเข้าใจสิ่งที่ผมพยายามจะบอกว่า การเห็นตัวเองของเรานั้น #พร้อมจะถูกบิดเบือนได้อย่างง่ายดาย
    ถ้าเราปล่อยให้ความคิด ทฤษฎี ไอเดีย ประสบการณ์ในอดีตของใครสักคนหนึ่ง ที่เราเชื่อว่าเขาเป็นคนที่ถูกต้อง หรือน่าเชื่อถือ แทรกแซงเข้ามาในการเห็นชีวิตนี้ของเรา 
    ด้วยหัวใจอันใสซื่อนั้น คือ #การเห็นชีวิตนี้ด้วยความเป็นกลางอย่างยิ่ง 
    แต่ด้วยหัวใจที่ไม่ใสซื่อ เมื่อเราถามคนในโลก ถามว่าเขารู้ไหม อะไรเกิดขึ้นรู้ไหม? เขาบอก เขาก็รู้ แต่ความรู้นั้นอยู่ภายใต้อัตตา 
    รู้ที่มีความครอบงำ ความเคลือบแฝง ทิฎฐิ หลักการ ความเชื่อของตัวเอง 
    และเมื่อการเรียนรู้ของบุคคลประเภทนี้เกิดขึ้น ผลลัพธ์คือความขัดแย้ง ที่ขัดแย้งกับคนอื่น และในหลายครั้งจะขัดแย้งกับตัวเอง 
    เพราะฉะนั้น ความสำคัญก่อนหน้าที่จะตื่นรู้ ก่อนหน้า

    • 27 min

Customer Reviews

4.8 out of 5
97 Ratings

97 Ratings

Arpaporn GG ,

คนไทย

This is why we love our country so much. I’m proud to be Thai. Thanks for your sharing.

Endless_rains ,

ขอบคุณครับ

ลองฟังแล้วทำตาม

วิฬาร์ ,

ดีครับ ขอบคุณครับ ผมชอบฟังตอนนอนไม่หลับ ฟังแล้วหายฟุ้งซ่านครับ ;-)

แมวธรรมะ

Top Podcasts In Religion & Spirituality

dhamma.com
watpasukato
หลอนสด
สำนักพิมพ์อัซซาบิกูน
พุทธวจน
Thammapedia.com

You Might Also Like

dhamma.com
Roundfinger Channel
Mission To The Moon Media
THE STANDARD
THE STANDARD
WOODY WORLD