design ไป บ่นไป Wee Viraporn
-
- Arts
-
design ไป บ่นไป / ดีไซน์ไป บ่นไป คือรายการพอดคาสท์ที่เป็นพื้นที่สนทนาของนักออกแบบสาขาต่างๆ เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับงานออกแบบในชีวิตประจำวัน วิชาชีพสายออกแบบ และการศึกษาด้านการออกแบบ แก่ผู้ประกอบวิชาชีพ, นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป
เนื้อหาของรายการจะแบ่งเป็นสองลักษณะ คือ การไปทำความรู้จักกับนักออกแบบหรือกลุ่มบุคคล, องค์กร เพื่อให้เข้าใจที่มาของวิธีคิดและวิธีทำงานของผู้ร่วมรายการ และการหยิบประเด็นหรืองานออกแบบที่น่าสนใจมาคุยกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
-
dpbp live #4.2 – ตัวอักษรในสื่อดิจิทอล
บันทึกเสียงจากการสนทนาสดครั้งที่ 4 ของ "ดีไซน์ไป บ่นไป" ที่งาน BITS/MMX (Bangkok International Typographic Symposium 2010) วันที่ 31 ตุลาคม 2553
-
dpbp live #4.1 – ตัวอักษรในสภาพแวดล้อม
บันทึกเสียงจากการสนทนาสดครั้งที่ 4 ของ "ดีไซน์ไป บ่นไป" ที่งาน BITS/MMX (Bangkok International Typographic Symposium 2010) วันที่ 30 ตุลาคม 2553
-
19 ปัญหางานป้ายของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
มาช่วยกันบ่นกันถึงปัญหาเรื้อรังเรื่องระบบป้ายสัญลักษณ์ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดย นพิน มัณฑะจิตร นักออกแบบชาวไทยที่เคยทำศิลปนิพนธ์ปริญญาโทในหัวข้อนี้, ไพโรจน์ ธีระประภา (โรจ สยามรวย) นักออกแบบที่เชี่ยวชาญการใช้องค์ประกอบไทยๆ และ วีร์ วีรพร ผู้ดำเนินรายการคนเดิม
-
ตอนพิเศษ 2 : คุยกับปฐมา หรุ่นรักวิทย์
บันทึกเสียงจากช่วงถามตอบของการบรรยายโดยปฐมา หรุ่นรักวิทย์ จาก CASE, สถาปนิกผู้ทำงานเพื่อชุมชน หรือที่หลายคนเรียกว่า “สถาปนิกสลัม” ในชั้นเรียนวิชาพฤติกรรมมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม ภาควิชาการออกแบบตกแต่งภายใน คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
-
18 ทำอย่างไรให้กราฟิกไทย ได้มาตรฐานสากล
ดีไซน์ไป บ่นไป ตอนนี้ เป็นการสนทนาเพื่อตีพิมพ์ในคอลัมน์ Round Table ของนิตยสาร Computer Arts Thailand ฉบับประจำเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010
เราได้รับเกียรติจากพี่ TNOP (ธีรนพ หวังศิลปคุณ) ที่กลับมาเยี่ยมเมืองไทยอีกครั้ง มาแบ่งปันประสบการณ์จากที่ได้ทำงานในต่างประเทศ พร้อมด้วยเคลวิน หว่อง, วรทิตย์ เครือวาณิชกิจ และดนัยพันธ์ วัชรีวงศ์ มาร่วมวงคุยกัน
Customer Reviews
ทำต่อ
น่าสนใจตรงที่ ไม่มีใครทำต่อ 9 ปีแล้ว
เป็น source of design ที่น่าสนใจมาก
มีคนบอกว่าการบอกเล่าแบบปากต่อปาก
เป็นไอเดียหลักในการทำตลาดของประเทศไทยยุคปัจจุบัน
แต่เอาจริงๆแล้วเรากำลังมองข้ามวิธีคิดแบบ Patronize ไปอย่างสมบูรณ์แบบ
ในช่วงรัชกาลที่ 4 - 6
โครงสร้างการอุปถัมภ์เป็นสิ่งที่ทำให้สโมสรหลาย ๆ แห่ง เกิดขึ้นในตัวกรุงเทพ
และถ้ากลับไปในประวัติศาสตร์ศิลปะทั่วโลกเราจะเห็นว่า
โครงสร้างอุปถัมภ์หรือที่เราเรียกว่าระบบอุปถัมภ์
เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้งานดีไซน์เติบโตได้
• ซึ่งมันมีวิธีคิดทางสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาครอบอยู่เบื้องหลัง อย่างเป็นปรกติ และเป็นวิทยาศาสตร์มากพอ และเป็นประเด็นที่สำคัญมากในวิธีคิดของ mgmt organization
• มากพอที่จะทำให้เราเข้าใจที่มาที่ไปว่า ทำไม bias เรื่อง style and deformation เป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงโดยอาจารย์มหาวิทยาลัย และมันกลายเป็น wrongfully ideology (ดีไซน์แบบสมัยนิยมเป็นเหมือนการแต่งตัว ผมชอบแต่งตัวชุดเดิมแบบไม่อาบน้ำ แต่เพื่อนผมไม่ชอบ เพราะตัวผมเหม็นมาก)
ถ้าเรารื้อโครงสร้างทางปรัชญา
เราจะเห็นว่า มืออาชีพในงานดีไซน์เนี่ยแหละที่ทำให้งานในไทยเติบโตได้ช้ามาก
เพราะมันแทบไม่ได้เกี่ยวกับงานดีไซน์เลย ในโปรเจ็คหนึ่ง
มันมี
• ความรู้ (เป็นเรื่องที่โคตรประหลาดที่สุด)
• ลูกค้า
• มหาวิทยาลัย
• รายได้
• รายจ่าย
• การ brainstorms
• ความเชื่อ
• เพื่อน ความสัมพันธ์
• ข้ออ้าง และ เหตุผล
งานดีไซน์เลยไม่มีวันจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมได้ ถ้าพูดได้แค่ benchmark การดูงาน หรือการไม่ยอมรับในวิธีคิดของคนอื่นเพราะยังไม่ดีพอ
great content
very useful for all designer
ดีมากครับ
ได้ความรู้ครับว่าดีไซเขาทำงานกันอย่างไร