10 min

Filmment l Review l รีวิว The Marksman คนระห่ำ พันธุ์ระอุ การกลับมาของป๋าเลียมที่ไม่ดุเหมือนเค‪ย‬ Filmment

    • Film Reviews

นักแสดงยอดนักบู๊อย่าง Liam Neeson กลับมาอีกครั้ง ในบทบาทของ จิม แฮนสัน อดีตนาวิกโยธิน เลือกจะใช้ชีวิตตามลำพังที่ชายแดน แต่ชีวิตของเขากลับต้องเข้าไปพัวพันกับอันตรายอย่างสุดขั้ว เมื่อเขาได้พบเจอกับ มิเกล เด็กหนุ่มที่กำลังถูกตามล่าจากกลุ่มนักค้ายาสุดโหด จิมจึงตัดสินใจยื่นมือเข้าช่วยมิเกล ด้วยการพาเขาหลบหนีจากกลุ่มนักค้ายาที่ตามล่ามิเกลอย่างไม่ลดละ

.

แม้เนื้อเรื่องย่อและตัวอย่างภาพยนตร์จะพาให้ผู้ชมพร้อมไปรับความเดือดของฉาก Action มากมายขนาดไหนก็ตาม แต่ The Marksman ไม่ได้วางตัวเองเป็นภาพยนตร์ Action เป็นหลักครับ เพียงแต่มีฉาก Action เป็นส่วนประกอบเท่านั้น เนื้อแท้ของ The Marksman คือภาพยนตร์ Drama ที่เลือกถ่ายทอดชีวิตของตัวละครผ่านการเดินทางร่วมกันมากกว่าครับ

.

นอกจากนี้ภาพยนตร์ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์มากขึ้น ผ่านการตัดสินใจของตัวละครที่เต็มไปด้วยความลังเลและหวาดกลัว รวมไปถึงได้เห็นตัวละครก่อความผิดพลาดง่ายๆ อยู่บ่อยครั้งในภาพยนตร์ครับ นอกจากนี้ยังให้น้ำหนักไปที่ความสัมพันธ์ของ 2 ตัวละครหลักอย่างจิมและมิเกล ที่ค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์กันมากขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างการเดินทาง ซึ่งบางเหตการณ์ก็ทำให้ตัวละครดูมีน้ำหนักและเป็นมนุษย์มากขึ้น แต่บางเหตุการณ์ก็ดูไม่สมเหตุสมผลและขัดแย้งในตัวเองไปสักหน่อยครับ การเลือกวิธีเล่าแบบนี้ทำให้ The Marksman มีความสมจริงมากขึ้น แต่ก็ต้องแลกมากับความบันเทิงที่ลดลงอย่างน่าใจหายครับ

.

เรียกได้ว่าการกลับมาครั้งนี้ของ Liam Neeson ป๋าเลียมไม่ดุเหมือนเคย แต่มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น มีหัวจิตหัวใจมากขึ้น น่าเสียดายที่ The Marksman ยังปรุงได้ไม่กลมกล่อมมากนัก โดยรวมทำให้ภาพยนตร์มีรสชาติจืดกว่าท

นักแสดงยอดนักบู๊อย่าง Liam Neeson กลับมาอีกครั้ง ในบทบาทของ จิม แฮนสัน อดีตนาวิกโยธิน เลือกจะใช้ชีวิตตามลำพังที่ชายแดน แต่ชีวิตของเขากลับต้องเข้าไปพัวพันกับอันตรายอย่างสุดขั้ว เมื่อเขาได้พบเจอกับ มิเกล เด็กหนุ่มที่กำลังถูกตามล่าจากกลุ่มนักค้ายาสุดโหด จิมจึงตัดสินใจยื่นมือเข้าช่วยมิเกล ด้วยการพาเขาหลบหนีจากกลุ่มนักค้ายาที่ตามล่ามิเกลอย่างไม่ลดละ

.

แม้เนื้อเรื่องย่อและตัวอย่างภาพยนตร์จะพาให้ผู้ชมพร้อมไปรับความเดือดของฉาก Action มากมายขนาดไหนก็ตาม แต่ The Marksman ไม่ได้วางตัวเองเป็นภาพยนตร์ Action เป็นหลักครับ เพียงแต่มีฉาก Action เป็นส่วนประกอบเท่านั้น เนื้อแท้ของ The Marksman คือภาพยนตร์ Drama ที่เลือกถ่ายทอดชีวิตของตัวละครผ่านการเดินทางร่วมกันมากกว่าครับ

.

นอกจากนี้ภาพยนตร์ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์มากขึ้น ผ่านการตัดสินใจของตัวละครที่เต็มไปด้วยความลังเลและหวาดกลัว รวมไปถึงได้เห็นตัวละครก่อความผิดพลาดง่ายๆ อยู่บ่อยครั้งในภาพยนตร์ครับ นอกจากนี้ยังให้น้ำหนักไปที่ความสัมพันธ์ของ 2 ตัวละครหลักอย่างจิมและมิเกล ที่ค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์กันมากขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างการเดินทาง ซึ่งบางเหตการณ์ก็ทำให้ตัวละครดูมีน้ำหนักและเป็นมนุษย์มากขึ้น แต่บางเหตุการณ์ก็ดูไม่สมเหตุสมผลและขัดแย้งในตัวเองไปสักหน่อยครับ การเลือกวิธีเล่าแบบนี้ทำให้ The Marksman มีความสมจริงมากขึ้น แต่ก็ต้องแลกมากับความบันเทิงที่ลดลงอย่างน่าใจหายครับ

.

เรียกได้ว่าการกลับมาครั้งนี้ของ Liam Neeson ป๋าเลียมไม่ดุเหมือนเคย แต่มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น มีหัวจิตหัวใจมากขึ้น น่าเสียดายที่ The Marksman ยังปรุงได้ไม่กลมกล่อมมากนัก โดยรวมทำให้ภาพยนตร์มีรสชาติจืดกว่าท

10 min