เล่าเรื่องรอบโลก by กรุณา บัวคำศร‪ี‬ karunabuakamsri

สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ได้ขยายผลกระทบเข้าไปยังแผ่นดินสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของอิสราเอล โดยในหลายเมือง บรรดานักศึกษา เยาวชน และคนทั่วไป เริ่มออกมาประท้วงต่อต้านการที่รัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุนอาวุธให้อิสราเอลทำสงครามในฉนวนกาซา คล้ายกับเหตุการณ์ประท้วงในสงครามเวียดนามช่วงปลายทศวรรษ 1960 

หลังอิหร่านส่งโดรนและขีปนาวุธเข้าโจมตีแผ่นดินอิสราเอลเพื่อตอบโต้เมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา หลังจากที่อิสราเอลยิงขีปนาวุธใส่สถานกงสุลอิหร่านในซีเรียเมื่อวันที่ 1 เมษายน ล่าสุดอิสราเอลออกมาประกาศโต้กลับอิหร่าน ถึงแม้ว่าบรรดาผู้นำจากหลายประเทศรวมถึงสหรัฐฯ จะออกมาเรียกร้องให้อิสราเอลหลีกเลี่ยงการตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน

เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 24 อิหร่านเปิดฉากโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่ เพื่อตอบโต้การโจมตีสถานกงสุลของอิหร่านในกรุงดามัสกัสโดยอิสราเอล เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา จนทำให้มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงเสียชีวิต

สถานทูตอิหร่านในกรุงดามัสกัสของซีเรียถูกขีปนาวุธปริศนาถล่มจนราบคาบ หลายฝ่ายระบุว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล แม้ทางการอิสราเอลเองจะยังไม่ได้ออกมายอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของกองทัพอากาศอิสราเอล แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบอย่างเป็นทางการ ขณะที่ทางการอิหร่านก็ได้ออกมาประกาศว่าจะล้างแค้นอิสราเอลอย่างหนัก

ในวันที่สงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสเข้าสู่เดือนที่ 6 อิสราเอลกำลังถูกโดดเดี่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ จากประชาคมโลก รวมถึงพันธมิตรอย่างสหรัฐฯ ที่ล่าสุด งดออกเสียงแทนการวีโตในการออกมติหยุดยิงทันทีของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา จนอิสราเอลออกมาแสดงความไม่พอใจ

เมื่อคืนวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุก่อการร้ายที่หอประชุมแสดงคอนเสิร์ตศาลากลางครอคัสในกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยกลุ่ม ISIS-K ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีดังกล่าว