Geek Forever’s Podcast tharadhol

การเข้าซื้อ Instagram ของ Facebook ถือได้ว่าเป็นการซื้อกิจการทางธุรกิจที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของ Silicon Valley การซื้อแอปแชร์รูปภาพ มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งในช่วงเวลาของการซื้อกิจการ Instagram มีผู้ใช้เพียง 30 ล้านคนและไม่มีรายได้เลย
ปัจจุบัน Instagram มีผู้ใช้มากกว่าหนึ่งพันล้านคน ทำรายได้ให้กับ Facebook มากมายมหาศาล การซื้อในวันนี้ที่ดูว่าเป็นการตัดสินใจอย่างอัจฉริยะ แต่ในความเป็นจริงในช่วงเวลาเดียวกันนั้น Facebook กำลังจะเสนอขายหุ้น IPO และครั้งหนึ่งมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ถือเป็นราคาที่สูงมาก ๆ ในยุคนั้น โดยเฉพาะสำหรับบริษัทที่ไม่ทำรายได้เลย
เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ
=========================ร่วมสนับสนุน ด.ดล Blog และ Geek Forever Podcast เพื่อให้เรามีกำลังใจในการผลิต Content ดี ๆ ให้กับท่านhttps://www.tharadhol.com/become-a-supporter/——————————————–ติดตาม ด.ดล Blog ผ่าน Line OA เพียงคลิก :https://lin.ee/aMEkyNA——————————————–ไม่พลาดข่าวสารผ่านทาง Email จาก ด.ดล Blog :https://www.getrevue.co/profile/tharadhol——————————————–Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจhttps://www.facebook.com/groups/geek.forever.club/=========================ช่องทางติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่Fanpage : www.facebook.com/tharadhol.blogBlockdit : www.blockdit.com/tharadhol.blogTwitter : www.twitter.com/tharadholInstragram : instragram.com/tharadholTikTok : tiktok.com/@geek.foreverYoutube : www.youtube.com/c/mrtharadholLinkedin : www.linkedin.com/in/tharadholWebsite : www.tharadhol.com

ในปี 1999 Nick Swinmurn คิดนี้ว่าไม่มีนักลงทุนคนใดอยากจะลงทุนในร้านขายรองเท้าออนไลน์ เขาได้ทำการวิจัยแล้วไปพบกับบริษัทด้านการลงทุนอย่าง Venture Frogs ซึ่งเป็นของ Tony Hsieh ซึ่ง Hsieh ได้มองเห็นถึงวิสัยทัศน์และศักยภาพของธุรกิจนี้จึงซื้อแนวคิดนี้ด้วยการลงทุน 500 ล้านดอลลาร์
Tony Hsieh ก้าวขึ้นมาเป็นซีอีโอของบริษัทในภายหลังและช่วยให้ Zappos เติบโตจนกลายเป็นหนึ่งในบริษัทออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยเริ่มจากเกือบศูนย์ เขามีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนเพื่อให้บริษัทของเขาไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าเท่านั้นแต่ยังรวมถึงความสุขของพนักงานด้วย
เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ
=========================ร่วมสนับสนุน ด.ดล Blog และ Geek Forever Podcast เพื่อให้เรามีกำลังใจในการผลิต Content ดี ๆ ให้กับท่านhttps://www.tharadhol.com/become-a-supporter/——————————————–ติดตาม ด.ดล Blog ผ่าน Line OA เพียงคลิก :https://lin.ee/aMEkyNA——————————————–ไม่พลาดข่าวสารผ่านทาง Email จาก ด.ดล Blog :https://www.getrevue.co/profile/tharadhol——————————————–Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจhttps://www.facebook.com/groups/geek.forever.club/=========================ช่องทางติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่Fanpage : www.facebook.com/tharadhol.blogBlockdit : www.blockdit.com/tharadhol.blogTwitter : www.twitter.com/tharadholInstragram : instragram.com/tharadholTikTok : tiktok.com/@geek.foreverYoutube : www.youtube.com/c/mrtharadholLinkedin : www.linkedin.com/in/tharadholWebsite : www.tharadhol.com

ไมโครซอฟต์ได้ประกาศการลงทุนมูลค่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (10.47 พันล้านดอลลาร์ริงกิต) ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 32 ปีของบริษัทในมาเลเซีย Satya Nadella ประธานและซีอีโอของ Microsoft ได้ประกาศเรื่องนี้โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านคลาวด์และ AI ของมาเลเซีย ในระหว่างงาน Microsoft Build: AI Day ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงกัวลาลัมเปอร์
การลงทุนของ Microsoft จะถูกกระจายออกไปในอีกสี่ปีข้างหน้า และรวมถึงแผนการสร้างโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์และ AI, สร้างโอกาสด้านทักษะด้าน AI ให้กับชาวมาเลเซีย 200,000 คน, ก่อตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้าน AI แห่งชาติ และเสริมสร้างขีดความสามารถด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศ นอกจากนี้ การลงทุนดังกล่าวจะสนับสนุนการขยายตัวของชุมชนนักพัฒนาของมาเลเซีย
“เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลง AI ของมาเลเซียเพื่อให้แน่ใจว่าจะเป็นประโยชน์ต่อชาวมาเลเซียทุกคน” Nadella กล่าว พร้อมเสริมว่าโครงการริเริ่มนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำให้มาเลเซียเป็นศูนย์กลางสำหรับการประมวลผลบนคลาวด์และเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น generative AI
เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ
=========================ร่วมสนับสนุน ด.ดล Blog และ Geek Forever Podcast เพื่อให้เรามีกำลังใจในการผลิต Content ดี ๆ ให้กับท่านhttps://www.tharadhol.com/become-a-supporter/——————————————–ติดตาม ด.ดล Blog ผ่าน Line OA เพียงคลิก :https://lin.ee/aMEkyNA——————————————–ไม่พลาดข่าวสารผ่านทาง Email จาก ด.ดล Blog :https://www.getrevue.co/profile/tharadhol——————————————–Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจhttps://www.facebook.com/groups/geek.forever.club/=========================ช่องทางติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่Fanpage : www.facebook.com/tharadhol.blogBlockdit : www.blockdit.com/tharadhol.blogTwitter : www.twi

ต้องบอกว่าสถานการณ์ของ Tesla ในตอนนี้พวกเขาต้องการจีนมากกว่าที่จีนต้องการ Tesla ซึ่งถ้าไม่นับสหรัฐอเมริกา จีนเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของ Tesla และในช่วงไตรมาสแรกของปี ยอดขายของ Tesla ในจีนลดลง 4 เปอร์เซ็นต์ในตลาด EV ในประเทศซึ่งขยายตัวมากกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ นั่นเป็นเรื่องไม่น่าแปลกใจที่ Elon Musk ต้องรีบบินบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกเพื่อพบปะกับนายกรัฐมนตรีจีนอย่างกะทันหัน
ในบรรดาข้อตกลงที่ได้รับการเปิดเผยในการประชุมเมื่อวันอาทิตย์กับ Li Qiang (หลี่ เฉียง) นายกรัฐมนตรีของจีนก็คือความร่วมมือกันรูปแบบใหม่ที่ให้ Tesla เข้าถึงใบอนุญาตการทำแผนที่สำหรับการรวบรวมข้อมูลบนถนนสาธารณะของจีนโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยีจีนอย่าง Baidu
เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ
=========================ร่วมสนับสนุน ด.ดล Blog และ Geek Forever Podcast เพื่อให้เรามีกำลังใจในการผลิต Content ดี ๆ ให้กับท่านhttps://www.tharadhol.com/become-a-supporter/——————————————–ติดตาม ด.ดล Blog ผ่าน Line OA เพียงคลิก :https://lin.ee/aMEkyNA——————————————–ไม่พลาดข่าวสารผ่านทาง Email จาก ด.ดล Blog :https://www.getrevue.co/profile/tharadhol——————————————–Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจhttps://www.facebook.com/groups/geek.forever.club/=========================ช่องทางติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่Fanpage : www.facebook.com/tharadhol.blogBlockdit : www.blockdit.com/tharadhol.blogTwitter : www.twitter.com/tharadholInstragram : instragram.com/tharadholTikTok : tiktok.com/@geek.foreverYoutube : www.youtube.com/c/mrtharadholLinkedin : www.linkedin.com/in/tharadholWebsite : www.tharadhol.com

ในช่วงเดือนสุดท้ายของปี 2014 Sony Pictures Entertainment (SPE) ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญแห่งวงการบันเทิงมีการผลิตและจำหน่ายภาพยนตร์ชื่อดังมากมาย เจอกับเหตุการณ์จารกรรมทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ กลุ่มแฮ็กเกอร์จากต่างประเทศแทรกซึมเครือข่ายของ SPE ผ่านมัลแวร์ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานทางดิจิทัลของบริษัท และเข้าถึงข้อมูลพนักงาน อีเมลส่วนตัว และภาพยนตร์ที่กำลังจะเข้าฉาย เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลครั้งใหญ่ของบริษัท
การแฮ็ก Sony Pictures Entertainment ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นฝ่ายของเกาหลีเหนือที่กระทำการดังกล่าว ที่ต้องการป้องกันไม่ให้ SPE ปล่อยภาพยนตร์ตลกทางการเมืองที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการลอบสังหารผู้นำของชาติพวกเขา เหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ทางไซเบอร์ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการบันเทิง
เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ
=========================ร่วมสนับสนุน ด.ดล Blog และ Geek Forever Podcast เพื่อให้เรามีกำลังใจในการผลิต Content ดี ๆ ให้กับท่านhttps://www.tharadhol.com/become-a-supporter/——————————————–ติดตาม ด.ดล Blog ผ่าน Line OA เพียงคลิก :https://lin.ee/aMEkyNA——————————————–ไม่พลาดข่าวสารผ่านทาง Email จาก ด.ดล Blog :https://www.getrevue.co/profile/tharadhol——————————————–Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจhttps://www.facebook.com/groups/geek.forever.club/=========================ช่องทางติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่Fanpage : www.facebook.com/tharadhol.blogBlockdit : www.blockdit.com/tharadhol.blogTwitter : www.twitter.com/tharadholInstragram : instragram.com/tharadholTikTok : tiktok.com/@geek.foreverYoutube : www.youtube.com/c/mrtharadholLinkedin : www.linkedin.com/in/tharadholWebsite : www.tharadhol.com
 

Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Facebook ได้กล่าวถึงความก้าวหน้าล่าสุดของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของยักษ์ใหญ่ด้านโซเชียลมีเดีย รวมถึงผลการดำเนินงานทางการเงินในระหว่างการรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุด
Zuckerberg เน้นย้ำว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ขับเคลื่อนเนื้อหามากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์บน Instagram และเนื้อหามากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์บน Facebook เขายืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นของ Meta ที่มีต่อ AI และแผนการที่จะทุ่มอย่างเต็มที่เพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดังกล่าวนี้ 
เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ
=========================ร่วมสนับสนุน ด.ดล Blog และ Geek Forever Podcast เพื่อให้เรามีกำลังใจในการผลิต Content ดี ๆ ให้กับท่านhttps://www.tharadhol.com/become-a-supporter/——————————————–ติดตาม ด.ดล Blog ผ่าน Line OA เพียงคลิก :https://lin.ee/aMEkyNA——————————————–ไม่พลาดข่าวสารผ่านทาง Email จาก ด.ดล Blog :https://www.getrevue.co/profile/tharadhol——————————————–Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจhttps://www.facebook.com/groups/geek.forever.club/=========================ช่องทางติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่Fanpage : www.facebook.com/tharadhol.blogBlockdit : www.blockdit.com/tharadhol.blogTwitter : www.twitter.com/tharadholInstragram : instragram.com/tharadholTikTok : tiktok.com/@geek.foreverYoutube : www.youtube.com/c/mrtharadholLinkedin : www.linkedin.com/in/tharadholWebsite : www.tharadhol.com