คำสอนพระมงคลเทพมุนี หลวงพ่อวัดปากน้ำ 072
-
- Religion & Spirituality
-
หนังสือเสียง ธรรมะ พระธรรมเทศนา หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) วิชชาธรรมกาย
-
หากพ่อแม่ประพฤติได้ดังนี้ เป็นตัวอย่างอันดีของลูกหญิงลูกชาย
มื่อเป็นฆราวาสเขาเรียกว่า ฆราวาสธรรม ปฏิบัติธรรมของตนให้แน่ นอนอย่าให้คลาดเคลื่อนเรียกว่า ธมฺมานุธมฺมปฏิปนฺโน
เริ่มต้นทีเดียว ต้องปฏิบัติอยู่ในกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการ ทอดทิ้งอกุศลกรรมบถทั้ง ๑๐ ประการเสีย ละอกุศลกรรมบถทั้ง ๑๐ ประการเสีย
ประกอบกุศลกรรมบถทั้ง ๑๐ ประการ
ให้เกิดมีกายบริสุทธิ์ ๓
เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์
เว้นขาดจากการลักทรัพย์สมบัติของผู้อื่น
เว้นขาดจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย ๓ ละ
เว้นจากวจีกรรม เว้นจากการพูดปด ไม่จริง หลอกลวงต่างๆ
เว้นจากกล่าวคำส่อเสียด ให้เขาแตกร้าวจากกัน ให้สมัครสมานอยู่ ให้มีกับตน
เว้นจากกล่าวคำหยาบช้าทารุณ ด่าชาติ ด่าตระกูล
เว้นจากกล่าวคำเหลวไหลปราศจากประโยชน์ หาหลักฐานไม่ได้ ไม่มีเหตุผล กล่าวเลอะเทอะๆ
อย่างนี้ นี่เรียกว่า วจีกรรมบริสุทธิ์
แล้วเว้นจากการโลภอยากได้ของเขา
เว้นจากโกรธประทุษร้ายเขา
เว้นจากเห็นผิดจากคลองธรรม ได้ชื่อว่า ใจบริสุทธิ์
กายบริสุทธิ์ ๓ วาจาบริสุทธิ์ ๔ ใจบริสุทธิ์ ๓
รวมเป็นบริสุทธิ์ ๑๐ คือ กาย ๓ วจี ๔ ใจ ๓ รวมเข้าเป็น ๑๐ นี้ เรียกว่า กุศลกรรมบถ ๑๐ ประการ
ตัวเองบริสุทธิ์ ดังนี้แล้ว ตั้งใจให้แน่วแน่ เรียกว่า ธรรมานุธรรมปฏิบัติ
ชวนบุคคลผู้อื่นให้บริสุทธิ์เหมือนกับตนเอง บริสุทธิ์ ๑๐ อย่างชักชวนบุคคลผู้อื่นให้บริสุทธิ์ ๑๐ อย่างเหมือนกันบ้าง ชักชวนบุคคลผู้อื่นอีก ๑๐ เป็น ๒๐ ละ
ยินดีพวกบริสุทธิ์ กาย วาจา ใจ เช่นนั้น อีก ๑๐ นั้นแหละเป็น ๓๐
สรรเสริญพวกบริสุทธิ์ด้วยกาย วาจา ใจ เช่นนั้น เป็น ๔๐ นี่เขาเรียกว่า กุศลกรรมบถวิภาค แยกออกจาก ๑๐ ไปเป็น ๒๐ ๓๐ ๔๐ ให้แน่นอนอย่าให้คลาดเคลื่อนเชียว นี่เขาเรียกว่า ฆราวาสธรรม
ธรรมของฆราวาสให้แน่นอนอย่าง -
ถ้าสมภารประพฤติได้ดังนี้ อยู่วัดไหน วัดนั้นก็เจริญล่ะ
ถ้าสมภารประพฤติได้ดังนี้ อยู่วัดไหน วัดนั้นก็เจริญละ ภิกษุสามเณรอุ่นหนาฝาคั่ง
เหมือนกับพ่อกับแม่ มีอะไรแจกให้ทั้งนั้น วัดปากน้ำอย่างนั้น ผู้ที่ปกครองเป็นเจ้าอาวาสอยู่นะ ได้อะไรมาก็ตามเถิด
คิดว่าพระภิกษุ สามเณร ที่มาอยู่ด้วยเหมือนกับลูกกับเต้า ไม่ห่วงไม่เสียดายกัน ติดขัดอะไรมา แจกให้ทั้งนั้น ไม่ขัด
เมื่อเป็นเช่นนี้ ภิกษุสามเณรก็เป็นสุขสบาย อุ่นหนาฝาคั่ง เหมือนอยู่กับแม่พ่อลูกเขา เขารักเหมือนแก้วตา
ถ้าแต่ว่าเขารู้ว่าภิกษุผู้ปกครองเอาใจใส่เหมือนเช่นนั้น ละก็ เขาก็เคารพนับถือ เขาก็เห็นว่าลูกเขาอยู่อุ่นหนาฝาคั่งเช่นนั้นดีแล้ว เขายิ่งเลื่อมใสศรัทธา เขาไม่ตระหนี่ถี่เหนียวอะไรหรอก
เขากลัวอยู่อย่างเดียวเท่านั้นแหละในพระพุทธศาสนา เมื่อทำแล้วเก็บเอาไปไถลเสียทางอื่นเท่านั้นแหละ -
เจ้าของนั้นได้เนื้อแต่ผู้รับนั้นได้กาก
เจ้าของมีจิตสามารถเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา น้อมมาถวายพระสงฆ์ กากที่เจ้าของให้นะเป็นกาก
เจ้าของนั้นได้เนื้อไปเสียแล้ว บุญกุศลติดอยู่ ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ ใสบริสุทธิ์ ดวงโตเท่าไหนแล้วแต่ศรัทธาของตน
นั่นเจ้าของกลั่นเอาเนื้อเสียแล้ว เอาเปลือกให้แก่ภิกษุถ้าภิกษุโง่ ไม่ฉลาดทันเจ้าของ ก็ไปเก็บเอาใส่ตู้ห้องไว้ แมลงสาบหนูกัดเสียหายไป
ถ้าไม่ฉลาดพอ ถ้าฉลาดพอ เมื่อเจ้าของเขาสละเช่นนั้นแล้ว เมื่อเก็บก็เอาไว้แจกพระภิกษุสามเณร อัดเอาบุญเสียเหมือนกัน กากนั้นให้ไป ถวายไป แต่บุญเอาเสียอีกชั้นหนึ่ง นี่เรียกว่าฉลาด
ได้สองชั้นสามชั้น นั่นแน่ ต้องการเอาไว้ ผ้านุ่งพอห่มพอสมควรเท่านั้นแหละ ถ้าผู้ฉลาดรับแล้วก็เท่าไรให้หมด
ท่านผู้นี้ปรากฏว่าจะเป็นอายุพระศาสนาสืบต่อไป -
📚 กัณฑ์ที่ ๕๒ ภัตตานุโมทนากถา
เจ้าของนั้นได้เนื้อไปเสียแล้ว
เอาเปลือกให้แก่ภิกษุ
ถ้าภิกษุโง่ ไม่ฉลาดทันเจ้าของ
ก็ไปเก็บเอาใส่ตู้ห้องไว้ ถ้าไม่ฉลาดพอ
ถ้าฉลาดพอ เอาบุญเสียอีกชั้นหนึ่ง
นี่เรียกว่าฉลาด -
การทีได้มาพบพระพุทธศาสนาเป็นของที่ได้ยากอย่างยิ่ง
ทุลฺลภา จ ขณสมฺปตฺติ ที่ จะถึงด้วยทานสมัย เป็นของได้ยากอีกประการหนึ่ง ที่ ๓ ถึงพร้อมด้วยทานด้วยสมัยเป็นอย่างใด พระพุทธเจ้ามาอุบัติตรัสขึ้นในโลกนี้พูดถึงทานสมัยนี้ เราไปเกิดเสียบ้านนอกเมืองดอนรอนแขมแรมไพรสิบวันพันปี ไม่พบภิกษุสามเณร ผ่านไปทางนั้นสักหนหนึ่ง นี่เป็นอขณะสมัยเสียข้อหนึ่งแล้ว พระพุทธเจ้ามาอุบัติเกิดในโลกโน้นไปเกิดเป็นสัตว์นรกเสีย ก็เป็นอขณะสมัยเสีย ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานเสีย พระพุทธเจ้ามาอุบัติเกิดขึ้นในโลก ก็เป็นอขณะสมัยเสีย ไปเกิดเป็นเปรต อสุรกายเสีย ก็เป็นอขณะสมัยอีกเหมือนกัน พระพุทธเจ้ามาอุบัติเกิดขึ้นในโลก ก็ไปเกิดเป็นอรูปสัตว์ ชั้นเนวสัญญานาสัญญายตนะ นั้น หรือสัญญีสัตว์โน้น พระพุทธเจ้ามาอุบัติเกิดในโลก เขาเรียกว่าเป็นบ้าเสีย เอาเมื่องไม่ได้ นี้ก็เป็นอขณะสมัย พระพุทธเจ้ามาอุบัติในโลกเป็นคนดีบริสุทธิ์ ตัวกลับเฉลียวแลาด พูดจาปราศรัยไม่ได้กลัวใคร ไม่ได้ครั่นคร้ามผู้หนึ่งผู้ใด พระพุทธเจ้าก็ไม่กลัวเสียอีก กลับดูถูกดูหมิ่นพระพุทธเจ้าไปเสียอีกหาว่าตัวฉลาดกว่าพระพุทธเจ้าเข้าไป เสียอีก พูดจาปราศรัยไม่มีใครเทียมทันทั้งนั้น ผู้คนคนชนิดนี้เขาเรียกว่า เอฬมตฺตโก บ้า น้ำลายเอาจริงไม่ได้ ดูถูกดูหมิ่นคละไปเสียอีก เป็นเอฬมตฺตโก เป็นอขณะสมัย เหมือนกับไม่พบพุทธศาสนา ไม่พบพระพุทธเจ้าทีเดียวนั้นแหละ แบบดียวกัน เมื่อเป็นเช่นนั้นก็เป็นมิจฉาทิฏฐิเสียก็ใช้ไม่ได้ ก็เป็นอขณะสมัยเสียอีกเหมือนกัน ไม่เอาจริง พวกนี้เหลวไหลทั้งนั้น อขณะสมัย พระพุทธเจ้ามาอุบัติตรัสขึ้นในโลก ตัวเองเป็นคนสมบูรณ์บริบูรณ์อยู่เลื่อมใสเหมือนภิกษุสามเณร อุบาสกอุบาสิกา ในบัดนี้ก็เหมือนกันล
-
ดวงบุญมากลั่นเป็นดวงบารมี ดวงบารมีกลั่นเป็นอุปบารมี อุปบารมีกลั่นเป็นปรมัตถบารมี
ดวงบุญใหญ่โตเล็เท่าไหร่ไม่ว่า สร้างไปเถอะ ทำไปเถอะ แล้วเอาดวงบุญนั้นมากลั่นเป็นบารมี ดวงบุญมากลั่นเป็นบารมีนะ บุญมีคืบหนึ่ง เต็มเปียมเท่าดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ ทีเดคยว เอามากลั่นเป็นบารมีได้นิ้วเดียว เท่านั้นเอง กลมรอบตัวเท่านั้นแหละ กลั่นไปดย่างนี้แหละทุกบารมี ไปจนกว่าาบารมีนั้นจะเต็มส่วนแล้วก็บารมีที่จะเป็นอุปบารมี เอา บารมี นั่นแหละ คืบหนึ่งเต็มส่วนเอามากลั่นเป็นอุปบารมีได้นิ้วเดียว แล้วเอา อุปบารมี นั่นแหละ คืบหนึ่ง กลมรอบตัว เอามากลั่นเป็นปรมัตถบารมีได้นิ้วเดียว
Customer Reviews
รวมกัณฑ์ที่ ๑
อยากให้เช็ค การออกเสียง คำว่า อุรุเวฬกัสสปะ สักนิดค่ะว่า ที่อ่านไว้คือ อุ-รุ-เวน-กัด-สะ-ปะ / น่าจะเป็น อุ-รุ-เว-ละ-กัด-สะ-ปะ หรือไม่ อย่างไรค่ะ ติดตามตลอดค่ะ ชอบมากเลย
เสียงหล่อดี
ชอบฟังค่ะ ฟังเพิลเลย
ฟังง่าย แม้เป็นคำพระ อนุโมทนาบุญผู้จัดทำค่ะ สาธุๆๆ รอฟังตลอด
ฟังง่าย แม้เป็นคำพระ อนุโมทนาบุญผู้จัดทำค่ะ สาธุๆๆ รอฟังตลอด