Luangpor Paisal Visalo‘s Podcast (ธรรมะ จาก หลวงพ่อไพศาล วิสาโล)

watpasukato
Luangpor Paisal Visalo‘s Podcast (ธรรมะ จาก หลวงพ่อไพศาล วิสาโล)

เสียงบรรยายธรรมของหลวงพ่อไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต จ.ชัยภูมิ

  1. 4 DAYS AGO

    25670809pm--เครียดได้แต่ใจไม่ทุกข์

    9 ส.ค. 67 - เครียดได้แต่ใจไม่ทุกข์ : ถ้าเครียดก็ปล่อยให้ตัวเองเครียดไปได้เลยนะ ไม่ต้องโทษตัวเอง อนุญาตให้ความเครียดเกิดขึ้นได้ อนุญาตให้ตัวเองเครียดได้ บางทีคนเราไปยึดมั่นกับความถูกต้องมากไป แล้วเราก็เลยโทษตัวเอง หรือตำหนิตัวเอง ว่าทำไมจึงมีความโกรธ ทำไมจึงมีความเครียด ทำไมไม่อยู่กับปัจจุบัน ทำไมไม่ปล่อยวาง ตำหนิตัวเอง แต่บางครั้ง การยอมรับตัวเอง ว่าเราทำได้เท่านี้ เครียดก็ยอมให้ตัวเองเครียดไป โกรธก็ยอมให้ตัวเองโกรธได้ ปรากฏว่ามันช่วยได้นะ เพราะว่าการที่เรามีท่าทีแบบนี้ ก็คือการยอมรับ ยอมรับอย่างที่มันเป็น พอยอมรับได้นี่ สิ่งที่เป็นปัญหา มันก็ละลายหายไป ความทุกข์ก็จางคลายไปเลย เพราะถึงที่สุดแล้ว ที่มันยังคงอยู่ ที่มันยังก่อกวนเรา เพราะเราไม่ชอบมัน เพราะเราพยายามผลักไสมัน อะไรที่ผลักไสจะคงอยู่นะ แต่อะไรที่ตระหนักรู้ หรือยอมรับได้ มันก็จะหายไป   ฉะนั้นเวลามีความเครียด หลังจากที่พยายามทำอะไรหลายๆ วิธีแล้ว มันก็ยังเครียดอยู่ ก็อนุญาตให้ตัวเองเครียดไป และนี่จะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เราเครียดได้โดยที่ใจไม่ทุกข์ มันทำได้นะ มีความเครียดเกิดขึ้น แต่ใจไม่ทุกข์ เพราะยอมรับมันได

    27 min
  2. 5 DAYS AGO

    25670808pm--จิตไม่หวั่นไหว ใจไม่กระเพื่อม

    8 ส.ค. 67 - จิตไม่หวั่นไหว ใจไม่กระเพื่อม : คนที่ไม่ยอมรับความโศกความเศร้าความโกรธ พยายามกดข่มมัน สุดท้ายก็ตกอยู่ในอำนาจของมัน คนที่ไม่ยอมรับเสียงในหัว ที่ตำหนิครูบาอาจารย์ บุพการี จ้วงจาบพระรัตนตรัย พยายามไปต่อสู้ หรือสู้รบตบมือกับมัน ยิ่งตกอยู่ในอำนาจของมัน แต่พอเราเริ่มยอมรับได้ ใจมันก็จะเริ่มไม่หวั่นไหวแล้ว ไม่กระเพื่อมแล้ว เสียงดังมากระทบ แต่เรายอมรับได้ มันก็ไม่เกิดความหงุดหงิด ความร้อนเกิดขึ้น มากระทบกาย เรายอมรับได้ ใจก็ไม่ร้อน มีเวทนาเกิดขึ้นกับร่างกาย ปวดเมื่อย หลัง เข่า แต่ใจยอมรับได้ มันก็ปวดแต่กาย แต่ใจไม่ทุกข์   อันนี้ก็เป็นวิธีการ ในการช่วยทำให้จิตไม่หวั่นไหว ใจไม่กระเพื่อม ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้ถึงขั้นบรรลุพระนิพพาน แต่ว่าก็ทำให้ใจเราตั้งมั่น เป็นขณะๆ ไป เป็นครั้งคราวไป หรือว่าชั่วคราว แต่มันก็พาเราเข้าใกล้พระนิพพานมากขึ้น เพราะเมื่อจิตไม่หวั่นไหว ใจไม่กระเพื่อม เมื่อมีสิ่งต่างๆ มากระทบ แต่ได้อาศัยสติ การรู้ซื่อๆ หรือการยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็จะเริ่มเห็นสัจธรรมความจริงจากสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น   โดยเฉพาะเห็นแจ้ง หรือเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ ว่า เหตุแห่งทุกข์นี่ ถ้าเป็นทุกข์ใจแล้ว มันก็ไม่ได้อยู่ที่ไหน อยู่ที่ใจของเรา ใจที่มีการผลักไสหรือไหลตาม ใจที่ไม่ยอมรับสิ่งต่างๆ อย่างที่มันเป็นความจริงที่ปรากฏแก่ใจของเรานี่แหละ จะช่วยทำให้เราเกิดปัญญา และปัญญาที่ว่า ก็จะทำให้จิตใจได้เข้าใกล้พระนิพพานมากขึ้น พระนิพพานจะไม่ใช่เป็นเรื่องนามธรรมแล้ว แต่ว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นรูปธรรมขึ้นมา นั่นก็คือการที่จิตมีความปกติ ไม่ขึ้นไม่ลง ไม่ฟูไม่แฟบ หรือพูดง่ายๆ คืออยู่เหนือสุขเห

    29 min
  3. 6 DAYS AGO

    25670807pm--มองลบเป็นนิจ ชีวิตจึงติดลบ

    7 ส.ค. 67 - มองลบเป็นนิจ ชีวิตจึงติดลบ : ชีวิตตัวเองอาจจะมีอะไรดีมากมาย แต่มองไม่เห็นเลย เห็นแต่ลบ เห็นแต่ความทุกข์ เห็นแต่อุปสรรค เห็นแต่ปัญหา หรือบางทีก็อาจเห็นความผิดพลาด ตื่นเช้าขึ้นมา ไม่สามารถที่จะชื่นชมสิ่งที่มีอยู่รอบตัวได้เลย มองไม่เห็นเลยนะว่าฟ้ามันสวย เรารู้สึกโชคดีนะที่เรายังมีลมหายใจ คิดไม่ออกจริงๆ เช่น รถติดมันดีอย่างไรบ้าง หรือว่าวันนี้เรามีอะไรดีๆ บอกมาสัก 5 อย่าง บางคนบอกไม่ได้เลย เห็นแต่ข้อเสีย ชีวิตแทนที่จะมีความสุขได้แบบง่ายๆ กลายเป็นชีวิตติดลบไป ฉะนั้นพวกเราก็ต้องระวังนะ เราอย่าประมาท เพราะว่าพอเราอยู่ท่ามกลางคนที่คิดลบ ชอบแซะ ชอบวิจารณ์ เราก็จะเผลอรับเอาความคิดแบบนี้เข้ามา แต่ที่จริงอาจจะมีความคิดหรือทัศนคติแบบนี้อยู่แล้วก็ได้ เพราะว่าการเลี้ยงดูในครอบครัว พ่อแม่ หรือว่าการหล่อหลอมจากครูบาอาจารย์ จำนวนไม่น้อยเป็นแบบนี้ พอถูกใครมอง ถูกผู้ใหญ่มองในทางลบ ถูกผู้ใหญ่เห็นแต่ข้อผิดพลาด ถูกผู้ใหญ่ตำหนิ ก็เลยซึมซับรับเอาความคิดแบบนี้มา พอเห็นใครทำดีก็หมั่นไส้ หาช่องแซะ หาช่องป่วน   อย่างที่มีคนคอมเมนต์ในข่าวที่ว่า พบไดโนเสาร์ทีภูหินร่องกล้า มีแต่คอมเมนต์ที่ลบทั้งนั้นเลย แล้วมันไม่ได้สร้างสรรค์เลยนะ เช่นหาว่า เพ้อเจ้อ หลอกเด็กอนุบาล เกิดทันเหรอถึงรู้ว่าเป็นไดโนเสาร์ ลองนึกนะ คนที่ค้นพบไดโนเสาร์หรือคนที่เขาพยายามจะเผยแพร่ข่าวนี้ เขาจะรู้สึกอย่างไร มันเป็นเพราะคนไทยเป็นแบบนี้ ก็เลยเกิดความรู้สึกถูกบั่นทอนกำลังใจได้ง่ายๆ   แต่ว่าเราก็อย่าไปหวั่นไหวกับความคิดแบบนี้ เพราะถ้าเราหวั่นไหว แล้วเราไปซึมซับ รับเอาความคิดแบบนี้ ทัศนคติแบบนี้เข้ามา สุดท้ายมันก็

    25 min
  4. 15 NOV

    25670806pm--ออกจากทุกข์เพราะรู้

    6 ส.ค. 67 - ออกจากทุกข์เพราะรู้ : ถ้าหากว่าไม่อยากจะถูกความทุกข์ครองใจ ก็ต้องพยายามเติมความรู้ตัวให้เกิดขึ้น แล้วก็เรียนรู้สัจธรรมความจริงของชีวิตจากเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อจะได้รู้ความจริงอย่างแจ่มแจ้ง ให้ตระหนักเห็นโทษของความหลงว่า ไม่ว่าจะเป็นความไม่รู้ตัว หรือการไม่รู้ความจริง ตัวนี้ต่างหากที่มันเป็นสมุทัย หรือเหตุ หรือสาเหตุแห่งทุกข์ ไม่ใช่เพราะว่าความแปรเปลี่ยน ความไม่เที่ยง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตานี้ไม่ได้เป็นเหตุแห่งทุกข์ แต่เป็นเพราะการไม่รู้ความจริง ไม่เข้าใจอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไปหลงยึดติดถือมั่นต่างหากที่ทำให้เป็นทุกข์ เพราะฉะนั้นการฝึกใจให้รู้ตัวจนกระทั่งรู้ความจริงของสรรพสิ่ง แม้จะไม่ถึงที่สุด ก็ช่วยลดช่วยบรรเทาความทุกข์ในจิตใจได้เยอะเลย

    28 min
  5. 14 NOV

    25670805pm--เติมเต็มจิตด้วยความรู้สึกตัว

    5 ส.ค. 67 - เติมเต็มจิตด้วยความรู้สึกตัว : วัน ๆ หนึ่งเราหลงมากกว่ารู้ตัว เวลาเราหลับ เราหลับน้อยกว่าเวลาเราตื่น เราหลับก็อาจจะสัก 6 หรือ 7 หรือ 8 ชั่วโมง แต่เราตื่น 16 ชั่วโมง 18 ชั่วโมง นั่นเป็นเรื่องของกาย ส่วนเรื่องของใจแม้ในช่วงเวลาที่เราตื่น 18 ชั่วโมง 16 ชั่วโมง ส่วนใหญ่มันหลง ส่วนน้อยที่รู้สึกตัว แล้วก็เป็นความรู้สึกตัวแบบไม่ต่อเนื่อง ถูกความหลงเข้ามาครอบงำ เพราะฉะนั้นมันก็เลยมีความโลภ มีความอยาก มีความรู้สึกพร่องตลอดเวลา ได้เท่าไหร่ก็ไม่พอ ยังอยากได้อีก แต่ถ้าเราทำความรู้สึกตัวบ่อย ๆ ทำเป็นประจำ ความรู้สึกตัวก็จะเพิ่มมากขึ้น ต่อเนื่องมากขึ้น ความหลงน้อยลง ความทุกข์ก็น้อยลงไปด้วย เพราะฉะนั้นก็อย่าไปดูแคลนความรู้สึกตัว มันเป็นวิธีการที่จะช่วยเติมเต็มจิตใจ   มีความรู้สึกตัวเมื่อไหร่ ก็หมายถึงมีสติเต็มตื่น มีสติเต็มตื่น ก็หมายความว่าไม่เปิดช่องให้กิเลสหรือความทุกข์เข้ามาครอบงำจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นความโลภ ความโกรธ ความเครียด ความทุกข์ ความเศร้าหรือความซึม แล้วถึงตอนนั้นเราก็จะเริ่มเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามีแล้ว สิ่งที่เราไม่มีหรือสิ่งที่เราเคยคิดว่าพร่อง มันจะไม่มีความหมายต่อจิตใจของเรา   เราจะมีความสุขง่าย ๆ เพราะเรารู้จักชื่นชมสิ่งที่เรามี ให้คุณค่า ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรามี ซึ่งที่จริงก็มีคุณค่าจริง ๆ เช่น การที่เรายังมีชีวิต ยังมีลมหายใจ ยังสามารถหายใจได้อย่างราบรื่น ไม่ติดขัด การที่เรายังมีตามองเห็น การที่เรายังมีหูได้ยิน ยังมีความคิด มีสติ มีความสามารถในการรู้สึกตัว   อันนี้มีกันทุกคน แต่สิ่งที่ไม่มี จำนวนมากเลยไม่ค่อยมีความสำคัญหรือความจำเป็นต่อชีวิต แต่ว่ามันเป็นค่

    27 min
  6. 13 NOV

    25670802--อย่ามองแบบเหมารวม

    2 ส.ค. 67 - อย่ามองแบบเหมารวม : บางคนที่มีเงินก็เหมารวมว่าคนจนนั้นเห็นแก่เงิน ส่วนคนที่พอมีพอกินหรือคนที่ฐานะไม่ดีก็เหมารวมว่าคนรวยนั้นเห็นแก่เงิน ประสบการณ์ของเราหรือสิ่งที่เราได้ยินมาอาจจะเป็นอย่างนั้น แต่ว่าอย่าเหมารวมว่าทุกคนจะเป็นอย่างนั้น อย่าเหมารวมว่าคนจนจะเห็นแก่เงิน หรืออย่าเหมารวมว่าคนรวยจะเป็นพวกงก ตระหนี่ เราต้องดูตามเนื้อผ้าไม่ใช่ตัดสินคนตามยี่ห้อหรือที่เรียกว่าเหมารวม เพราะว่าจะรวย จะจน คนที่ดีมีคุณธรรม ที่ซื่อสัตย์สุจริตก็มีอยู่ เรามีภาพประสบการณ์อย่างไรก็อย่าไปตัดสินคนที่เราพบ คนที่เรารู้จักเพียงเพราะว่าเขารวยหรือจน เพราะจริงๆเขาอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด หรือภาพที่เราวาดเอาไว้ก็ได้

    11 min
  7. 12 NOV

    25670801pm--ออกจากทุกข์ ให้ใจกลับมาอยู่กับปัจจุบัน

    1 ส.ค. 67 - ออกจากทุกข์ ให้ใจกลับมาอยู่กับปัจจุบัน : เพราะถ้าไม่มีสติที่เรียกว่าสัมมาสติ มันก็จะระเหเร่ร่อน ไหลไปอดีตมั่งลอยไปอนาคตอยู่ร่ำไป เสร็จแล้วก็จะจมอยู่ในอารมณ์ ไหลไป ลอยไปลอยมาก็จมอยู่ในอารมณ์ จมมีความทุกข์ เพราะไปคว้าเอาอดีต ไปคว้าเอาอนาคตมาแบกเอาไว้ เสร็จแล้วก็ไปโทษคนนั้นคนนี้ว่าทำให้เราทุกข์ ไม่ต่างจากคนที่แบกก้อนหินแล้วก็โทษก้อนหินว่า ก้อนหินทำให้เราเหนื่อย ทำให้เราล้า แต่ไม่ถามเลยว่า แล้วแบกทำไม ไอ้ที่เหนื่อยที่ล้าไม่ใช่เพราะก้อนหินแต่เพราะไปแบกมันเอาไว้ ถ้าไม่อยากเหนื่อย ไม่อยากทุกข์ ไม่อยากล้าก็ทำได้ไหมคือวางมันลง แต่จะวางมันลงได้ต้องรู้ก่อนว่า ที่ทุกข์เป็นเพราะแบกเอาไว้ ส่วนใหญ่ไม่รู้ ไปแบกอดีต ไปแบกอนาคตแล้วยังไม่รู้เลยเป็นเพราะแบก   แล้วเมื่อทุกข์ เกิดความโกรธ เกิดความคับแค้น เกิดความวิตกกังวล ก็ไปโทษโน่นโทษนี่ แต่ลืมมองไปว่าจะเป็นเพราะใจเรานี่ไปแบกมันเอาไว้ หรือไม่ได้มองว่าเป็นเพราะใจเราเปิดช่องให้ความทุกข์เข้าไปเล่นงาน สร้างความปั่นป่วนในจิตใจ ถ้าเราดูแลรักษาใจให้ดี มีสติเป็นเครื่องรักษาใจ การที่เปิดช่องให้ความทุกข์เข้ามาเล่นงานจิตใจเราก็จะเป็นไปได้ยาก เพราะฉะนั้นให้เรียนรู้ ให้ทำความเข้าใจเรื่องการอยู่กับปัจจุบันให้ดี แล้วก็พยายามสร้างเหตุปัจจัยคือการเจริญสติ การทำความรู้สึกตัว มันจะเป็นเครื่องมือที่จะช่วยทำให้อยู่กับปัจจุบันได้ และการปล่อยวางกันอดีตอนาคตมันก็จะไม่ใช่เรื่องยาก

    28 min
  8. 11 NOV

    25670731pm--เมื่อรักษาใจ ทุกข์ย่อมเกิดขึ้นได้ยาก

    31 ก.ค. 67 - เมื่อรักษาใจ ทุกข์ย่อมเกิดขึ้นได้ยาก : แต่สิ่งที่เราทำได้คือ รักษาใจ นี่เป็นเบื้องต้นที่จะช่วยทำให้ใจเราไม่ทุกข์ คือพอเจอสิ่งที่ไม่ถูกใจแล้ว เกิดความอารมณ์ขึ้นมา ก็รู้ทัน ไม่ปล่อยให้มันเข้ามาครอบงำใจ สามารถจะวางระยะห่าง อันนี้ด้วยวิธีการที่หลวงพ่อคำเขียนท่านใช้คำว่า เห็นไม่เข้าไปเป็น พอเห็นเมื่อไร ใจก็จะอยู่ห่างสิ่งนั้น เห็นกองไฟ ใจก็ออกห่างจากกองไฟ ไม่ว่าจะเป็นไฟโทสะ ไฟราคะ ทำอย่างนั้นได้เพราะมีสติ แต่ถ้าไม่มีสติ ใจก็จะกระโจนเข้าไปในกองไฟ แล้วก็ทุกข์ เหมือนกับเดินบนถนนแล้วเห็นกองขี้หมา เห็นก้อนหิน เห็นตะปู เห็นเศษแก้ว เห็นหลุมเห็นบ่อ แต่ก็เดินหลบสิ่งเหล่านั้นได้ เพราะเรามีตาที่ช่วยทำให้เรามองเห็นสิ่งที่ไม่ควรข้องแวะบนถนน สติก็เหมือนกับตาในที่ทำให้เราเห็นอนิฏฐารมณ์ต่างๆ แต่ไม่ไปข้องแวะกับมัน หรือไม่เปิดช่องให้มันมาทำร้ายจิตใจของเรา   อย่าไปคาดหวังว่าถนนจะต้องราบเรียบสะอาดหมดจด มีแต่สิ่งดีๆ ทุกวันนี้หลายคนเวลาอธิษฐานหรือเวลาขอพร ก็ขอให้ไม่มีอุปสรรค ไม่มีความทุกข์ ความยากลำบาก อย่าได้รู้จักคำว่าไม่มี อันนี้มันปรารถนาได้ แต่ว่าความจริงไม่เป็นอย่างนั้นหรอก แต่ว่าแม้เส้นทางจะวิบาก บนถนนอาจจะมีงูเงี้ยวเขี้ยวขอ มีกองขี้หมา แต่เราก็มีความสามารถที่จะเลือกเดินหลบมันได้ ถ้าเรามีสติ ถ้าเรามีปัญญา ถ้าเรามีความระมัดระวังไม่ประมาทเลินเล่อ   เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากทุกข์ก็ต้องพยายามดูแลรักษาใจให้ดี เหมือนกับคนที่อยากจะรักษารถ ก็ต้องดูแลรถให้ดี อย่าไปคิดว่าจะต้องปราบโจรผู้ร้ายให้มันหมด อย่างไรก็ปราบโจรผู้ร้ายไม่หมดหรอก โจรที่จ้องจะลักขโมยรถมีอยู่ตลอดเวลา สิ่งสำค

    28 min
4.9
out of 5
123 Ratings

About

เสียงบรรยายธรรมของหลวงพ่อไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต จ.ชัยภูมิ

You Might Also Like

To listen to explicit episodes, sign in.

Stay up to date with this show

Sign in or sign up to follow shows, save episodes and get the latest updates.

Select a country or region

Africa, Middle East, and India

Asia Pacific

Europe

Latin America and the Caribbean

The United States and Canada