ม้าอาชาไนย ม้าแกลบ [6802-6t]

6 ขุดเพชรในพระไตรปิฏก

เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ เด็กในวันนี้จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า ความเป็นพหูสูตจึงสำคัญต่อเด็กอย่างมาก หรือแม้กระทั่งผู้ใหญ่เองก็ควรที่จะให้ความสนใจในการศึกษาหาความรู้ใหม่ ๆ เพิ่มเติมอยู่เสมอ

ตอบคำถามของท่านผู้ฟังจากตอน “สมณะแกลบ” ที่ออกอากาศไป โดยกล่าวถึงการนับข้อธรรมใน “การัณฑวสูตร” ให้ได้ครบ 8 ข้อนั้น ให้ลองสังเกตจากการอ่านทบทวนหรือศึกษาเพิ่มเติมอาจจะเปิดเผยสิ่งที่ยังไม่เห็น และอีกหนึ่งคำถามที่ถามว่า “เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราโดนลาภสักการะเล่นงานเข้าแล้ว” ให้เราหมั่นเตือนตนด้วยตนและการมีกัลยาณมิตรที่ดีจะคอยช่วยเตือนกันและกัน

เรื่องราวใน 2 พระสูตรแรก เป็นการนำเอาม้าอาชาไนยและม้าแกลบมาเปรียบเทียบกับบุคคลผู้เป็นอาชาไนยหรือบุคคลกระจอก โดยใน ข้อที่#13_อัสสาชานิยสูตรว่าด้วยม้าอาชาไนย มีใจความอุปมาอุปไมยดังนี้

1.    เป็นสัตว์มีกำเนิดดีทั้งฝ่ายแม่ม้าและพ่อม้า อุปไมยกับ => บุคคลผู้มีศีลดี

2.    กินหญ้าที่เขาให้อย่างเรียบร้อยไม่เรี่ยราด => ฉันโภชนะที่เขาถวายโดยเคารพไม่รังเกียจ

3.    รังเกียจที่จะนอนทับอุจจาระหรือปัสสาวะ => รังเกียจกาย วาจา ใจทุจริต ตลอดถึงรังเกียจบาปอกุศลธรรมต่าง ๆ

4.    เป็นสัตว์สงบเสงี่ยม อยู่ร่วมกันเป็นสุข => เป็นผู้สงบเสงี่ยม อยู่ร่วมกันเป็นสุข

5.    เปิดเผยความโอ้อวด ความพยศคดโกงแก่นายสารถี => เปิดเผยความไม่ดีของตนแก่พระศาสดาหรือเพื่อนพรหมจารีตามความเป็นจริง

6.    นายสารถีปราบความโอ้อวด ความพยศของมันได้ => พระศาสดาหรือเพื่อนพรหมจารีพยายามช่วยกันกำจัดความโอ้อวดความคดโกงเหล่านั้นของเธอได้

7.    เป็นสัตว์ลากภาระไปได้ => เป็นผู้ศึกษา คือ ใฝ่ใจจะศึกษา

8.    เป็นสัตว์มีกำลัง => เป็นผู้ปรารภความเพียร (ด้วยองค์ 4 คือ หนัง เอ็น กระดูก เนื้อ และเลือด)

ข้อที่ #14_อัสสขฬุงกสูตร ว่าด้วยม้ากระจอกและคนกระจอก มีใจความอุปมาอุปไมยดังนี้

1.    ถูกนายสารถีสั่งว่า ‘เดินไป’ แต่กลับถอยหลัง ดันรถให้กลับหลัง => อำพรางอาบัติไว้ เพราะระลึกไม่ได้

2.    ..แต่กลับหกหลัง ดัดทูบให้หัก => ถูกโจทก์ด้วยอาบัติแต่โต้ตอบภิกษุผู้เป็นโจทก์ว่าไม่มีคุณสมบัติที่จะมากล่าวโจทก์

3.    ..ยกขาขึ้นตะกุยงอนรถ ถีบงอนรถ => โจทก์กลับด้วยอาบัติเดียวกัน

4.    ..เดินผิดทาง ทำให้รถไปผิดทาง => พูดกลบเกลื่อน พูดนอกเรื่อง แสดงอาการโกรธ ขัดเคือง

5.    ..เชิดกายส่วนหน้า เผ่นขึ้นไป => แสดงอาการไม่เคารพในหมู่สงฆ์

6.    ..ไม่คำนึงถึงประตัก กัดบังเหียน หลีกไปตามความประสงค์ =>ไม่เอื้อเฟื้อสงฆ์ ทั้งที่มีอาบัติติดตัวอยู่กลับหลีกหนีไป

7.    ..ไม่ก้าวไป ไม่ถอยหลัง ยืนทื่ออยู่เหมือนเสาเขื่อน => กล่าวว่าตนไม่อาบัติแล้วใช้ความนิ่งทำให้สงฆ์ลำบาก

8.    ..ลงหมอบทับเท้าทั้ง 4 อยู่ที่ตรงนั้น => ไม่ยอมรับการกล่าวโจทก์แล้วบอกคืนสิกขา

ข้อที่ #15_มลสูตร ว่าด้วยมลทิน (ความมัวหมอง)

“มนตร์ มีการไม่ท่องบ่นเป็นมลทิน 

เรือน มีความไม่ขยันหมั่นเพียรเป็นมลทิน 

ผิวพรรณ มีความเกียจคร้านเป็นมลทิน 

ผู้รักษา มีความประมาทเป็นมลทิน 

สตรี มีความประพฤติชั่วเป็นมลทิน 

ผู้ให้ มีความตระหนี่เป็นมลทิน 

บาปธรรม เป็นมลทินทั้งในโลกนี้และโลกหน้า 

มลทินที่ยิ่งกว่ามลทินนั้นคือ..อวิชชา”

พระไตรปิฎกเล่มที่ 23 พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ 15 [ฉบับมหาจุฬาฯ] อังคุตตรนิกาย มหาวรรค

Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.

Pour écouter des épisodes au contenu explicite, connectez‑vous.

Recevez les dernières actualités sur cette émission

Connectez‑vous ou inscrivez‑vous pour suivre des émissions, enregistrer des épisodes et recevoir les dernières actualités.

Choisissez un pays ou une région

Afrique, Moyen‑Orient et Inde

Asie‑Pacifique

Europe

Amérique latine et Caraïbes

États‑Unis et Canada