VisualtellingTH

Visual Telling Thailand

Visual Telling Thailand Podcast สรุปเป็นภาพ ให้ภาพเล่าเรื่อง

Episodes

  1. 01/19/2021

    EP7 : สำรวจสมุดโน๊ตของคุณแล้วเริ่มตีกรอบความคิด

    หลังจากที่โพสต์ก่อนหน้านี้เราพูดถึงลักษณะของการจดบันทึก 5 แบบที่ถ่วงความเจริญไปแล้ว ก่อนจะไปเริ่มต้นปรับเปลี่ยนกันอยากจูนความคิดให้ตรงกันเกี่ยวกับเรื่องการคิดว่าตัวเองเป็นคนเก่งหรือไม่เก่งแตกต่างกันที่ตรงไหน คนที่ถูกมองว่าไม่เก่ง มีลักษณะแบบเดียวเลยค่ะ คือ ไม่คิดตาม ส่วนคนที่ถูกมองว่าเก่ง >> ลักษณะทางโครงสร้างความคิด มักจะเป็นคนที่เรียบเรียงความคิดในหัวได้ (ถ้าไม่สามารถทำได้ต้องเขียนเพื่อให้เห็นภาพและทิศทางของข้อมูลชัดเจนขึ้น) >> ไม่เขียนตามแบบโน๊ต copy and paste แต่มักจะเรียบเรียงข้อมูลใหม่เป็นคำพูดของตัวเอง ในรูปแบบที่ตัวเองเข้าใจ >> มีกรอบความคิดเป็นของตัวเอง ทำให้การจดบันทึกแต่ละครั้งแม้ว่าหลายหมื่นจะไม่ดีแต่ก็อ่านออก เขียนเป็นระเบียบ จับต้นชนปลายได้ เริ่มต้นเปลี่ยนมาเขียนโน้ตส่งเสริมความสามารถสามารถเริ่มต้นง่ายๆด้วยการตีกรอบความคิด 📖 Blog >> https://visualtellingthschool.teachable.com/blog - - - - - - - - - - - - - - - - - - การมีกรอบความคิดจะทำให้การเขียนบันทึกลงเป็นระเบียบมากขึ้น เจ้าของความคิดนี้พูดง่ายๆ ก็คือ การตีตาราง การตีกรอบเพื่อไม่ให้ข้อมูลปะปนกัน เวลาจะมองข้อมูลช่องไหน เวลามองๆรู้ว่ามาจากหัวข้อไหน ทำให้หยิบข้อมูลมาใช้งานได้ง่าย สมองจะคัดกรองข้อมูลได้ดี เห็นประเด็นสำคัญได้ง่าย รู้ว่าข้อมูลส่วนใดสำคัญ ส่วนใดไม่สำคัญ เปรียบเทียบง่ายๆเหมือนการจัดชั้นหนังสือ หรือตู้เสื้อผ้า หาข้อมูลถูกจัดไว้เป็นหมวดหมู่ มีช่องมีลิ้นชักแบ่งกันชัดเจนเวลาจะเรียกใช้ข้อมูล ก็หยิบใช้ได้ง่าย รู้ว่าหยิบข้อมูลออกมาจากช่องไหน ซึ่งแตกต่างจากการจดสะเปะสะปะ ข้อมูลที่หยิบออกมาใช้ ก็ต้องกลับไปย้อนดูว่าควรจะมาจากหัวข้อไหน แต่มีข้อมูลอะไรใกล้เคียงกัน ต้องเสียเวลาในการทำความเข้าใจใหม่และจัดเรียงข้อมูลใหม่ไปอีก เสมือนทำงานรอบเดียวแล้วไม่จบ สิ่งสำคัญของการเรียนรู้และการทำงาน ไม่ใช่ปริมาณข้อมูลที่รับเข้ามา หากแต่เป็นการจัดระเบียบชั้นข้อมูลในสมองมากกว่า สังเกตไหมคะว่าทำไมนักเรียนแต่ละคนที่เรียนมาด้วยกัน ปริมาณอินพุตของอาจารย์ที่สอนให้ผู้เรียนก็เท่ากัน แต่ทำไมปริมาณข้อมูลที่นักเรียนแต่ละคนทำความเข้าใจและจดจำได้กลับไม่เท่ากัน นี่ก็เป็นผลมาจากการจัดระเบียบชั้นข้อมูลทางความคิดของสมองนั่นเองค่ะ ดังนั้น การเริ่มต้นจัดระเบียบข้อมูลในสมองง่ายๆเริ่มต้นจากการจดโน้ตที่ตีกรอบความคิดนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ ^^ Sketchnoting by ครูปูเป้ ปรียนันท์ @VisualtellingTH #sketchnote #visualnote

    14 min
  2. 01/16/2021

    EP5 : คุณค่าที่แท้จริงของการเขียนบันทึกด้วยภาพคือขบวนการจัดระเบียบความคิด

    คุณค่าการเขียน Visaul Note คือ กระบวนการจัดระบบความคิด ความสวยคือผลพลอยได้ แต่เมื่อใดที่คุณให้ค่า Visual Note แค่ความสวย ข้อมูลที่คุณเขียนอยู่จะหมดคุณค่าทันที เพราะคุณให้ค่าความสวยของภาพที่วาดมากกว่าข้อมูลที่สำคัญ 🗨️ นี่คือ 1 ข้อความ ที่เป้อยากจะพูดเชิงสร้างความตระหนักและให้กำลังใจกับหลายๆคนที่กำลังคิดว่าอยากจะเริ่มเขียนบันทึกเป็นภาพ เพราะจุดเริ่มต้นของการเขียนบันทึกเป็นภาพของเป้เองก็ไม่ได้เริ่มต้นจาก ความคิดที่อยากจะวาดภาพให้สวย โดดเด่น และน่ารัก แต่เกิดจากความที่ตัวเองเป็นคนที่สมองไม่ดี เข้าใจข้อมูลอะไรยากและความสามารถในการจดจำค่อนข้างน้อย ตัวช่วยสำคัญของเป้ก็คือการเขียน ถ้าใครเคยได้ร่วมงานหรือเรียนกับเป้จะจับสังเกตได้ว่าเป้เป็นคนที่ชอบจดบันทึกตาม จริงๆแล้วไม่ใช่นิสัยรักการเขียนนะคะ อะไรที่เราจำได้แล้วก็ไม่เขียนเท่าไหร่ เป้ก็ไม่ค่อยทำนะ แต่เมื่อมีไปอบรมสัมมนาหรือพูดคุยประชุมอะไรกันก็แล้วแต่ เป้มักจะเป็นคนที่ต้องจดบันทึกอยู่ตลอด พ่อบันทึกนี้จะช่วยจัดระเบียบข้อมูลวัดที่ผ่านมาเรารับข้อมูลอะไรมาบ้าง แล้วสามารถรีเช็คได้ตอนจบว่าเราเข้าใจข้อมูลได้ถูกต้องหรือเปล่า จุดเด่นในการเขียนบันทึกของเป้เริ่มจากการต้องมีภาพประกอบ ซึ่งอาจจะเขียนเป็นโฟชาร์ตก้อนข้อมูลต่างๆ หรือเขียนเป็นกราฟแท่งแนวนอนแล้วเขียนส่วนประกอบของสิ่งต่างๆ ไว้เสมอ เพื่อสร้างภาพจำในสมองของตัวเอง ว่า..เออ!!ว่าสิ่งที่ทำเนี่ยมีอะไรบ้าง และจะมีขั้นตอนไปทิศทางไหน เวลาที่ไม่ได้เขียนบันทึกออกมาเป้ก็จะไม่ได้ทำเป็นบรรทัดแบบที่คุณกำลังอ่านนี้นะคะ แต่จะจำเป็นแผนที่ ว่าพิกัดแต่ละจุดอยู่ตรงไหน แล้วลิงค์กับหน้าที่อะไร Visual Note คือการจัดระเบียบความคิดโดยใช้ภาพเข้ามาช่วยทำให้เห็นข้อมูลจะต่างขึ้นจนสามารถจดจำเป็นภาพเพื่อให้นึกถึงได้ง่ายขึ้น มันไม่ใช่การวาดภาพน่ารักๆที่ดีต่อใจไปวันๆเท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าคุณกำลังมีความคิดว่าอยากจะลองเขียนบันทึกเป็นภาพบ้าง หรือคุณอาจเป็นคนที่กำลังมีระบบความคิดที่ยุ่งเหยิง หาจุดสำคัญไม่ได้ หรือเป็นคนที่เข้าใจอะไรยาก หรือเป็นคนที่ความจำไม่ดี ไปแนะนำให้ลองเปิดใจ #เขียนบันทึกด้วยภาพ ดูนะคะ เขียนในมุมมองที่คุณกำลังเป็นคนที่กำลังอธิบายให้ตัวเองเข้าใจอยู่ ไม่ใช่ในมุมมองนักวาดภาพที่ต้องการให้งานออกมาสวย ถ้าคุณเริ่มต้นจากจุดนี้ได้เชื่อว่า คุณเป็นนักเขียนบันทึกด้วยภาพได้แน่นอนค่ะ ^^

    21 min
  3. 01/16/2021

    EP4 : 5 ขั้นตอนฝึกทักษะการพูดแสดงความคิดเห็น

    บางครั้งความไม่กล้าแสดงความคิดเห็นอาจทำให้เราพลาดการแสดงไอเดียเจ๋งๆไปก็ได้ เรามาฝึกSkillนี้กันเถอะ ฝึกได้ง่ายๆแค่5ขั้นตอน เราสังเกตกันไหมคะว่าฝรั่งทำไมเขาถึงกล้าแสดงความคิดเห็นจนบางครั้งเราอาจจะดูว่าเขาไม่มีมารยาทหรือไม่ถนอมน้ำใจผู้ร่วมงานเอาซะเลย ตามวัฒนธรรมของชาวตะวันตกนี้ไม่ใช่ว่าอยู่ๆพวกเขาเกิดมาแล้วเถียงเก่งเลยนะคะ แต่เขาบรรจุวิชานี้ลงไปตั้งแต่สมัยเรียนและถูกฝึกฝนมาแบบนี้มากกว่าทำให้เขากล้าที่จะแสดงความคิดเห็นมากกว่าชาวเอเชียอย่างเรา ซึ่งทักษะเหล่านี้สามารถฝึกกันได้ค่ะ ในหนังสือ The power of output ได้พูดถึงประเด็นนี้ด้วยการแนะนำ 5 วิธีการฝึกพูดแสดงความคิดเห็นผ่านการ discussions หรือการดีเบตไว้ง่ายๆและน่าสนใจดังนี้ค่ะ 1 ให้เริ่มจากฝึกแสดงความคิดเห็นทุกครั้งกับตัวเองก่อน อาจจะเป็นตอนอ่านหนังสือหรือเข้าร้านอาหาร ว่าเรารู้สึกอย่างไร หรือถ้าเป็นเราจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร 2 ฝึกตัดสินความรู้สึกส่วนตัวออกจากเครื่องที่เป็นการแสดงความเห็น เช่นอารมณ์เศร้า เหงา โกรธ ให้นึกถึงเป้าหมายไว้ก่อนถ้าเป็นการทำงาน พยายามตัดประโยชน์ส่วนตัวเองออกแล้วนึกถึงประโยชน์ส่วนรวมให้มาก 3 ก่อนจะแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมควรเตรียมข้อมูลและเอกสารอ้างอิงให้พร้อมสำหรับ support ความคิดเห็นของเราด้วยเวลาเข้าประชุมจะได้ดูน่าเชื่อถือและมีน้ำหนักและที่สำคัญไม่แปลกด้วยค่ะ 4 ควรเตรียมคำถามและคำตอบล่วงหน้าในกรณีที่เราเป็นฝ่ายนำเสนอ มีงานวิจัยบ่งชี้ว่า โดยส่วนใหญ่แล้วการเตรียมคำถาม 10 ข้อมักจะครอบคลุมเนื้อหาประมาณ 70% ของข้อมูลหรือในหัวข้อนั้นๆ แต่ถ้าเราเตรียมตอบคําถามไว้ 30 ข้อมักจะครอบคลุมเนื้อหาประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ค่ะ 5 ฝึกนำเสนอเป็นคนแรกๆ มีหลักฐานทางจิตวิทยาระบุว่าคนที่นำเสนอแนวคิดหรือข้อมูลเป็นคนแรกข้อมูลนักมีน้ำหนักและน่าเชื่อถือมากกว่าคนที่พูดทีหลัง อารมณ์แบบพูดก่อนได้เปรียบ อะไรประมาณนั้น หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์นะคะเอาไปฝึกทำกันแบบง่ายๆน่าจะไม่เหลือบ่ากว่าแรงจนเกินไปนัก ^^ 📌Sketchnote Trick : อย่างบทความที่เป้นำมาเขียนสรุปเป็นสเก็ตโน๊ตแผ่นนี้ ก็ย่อมาจากข้อมูลประมาณ 4-5 หน้า โดยจับเอาเฉพาะประเด็นหลักๆมาเขียนค่ะ ประการแรกคือต้องดูว่าชุดข้อมูลนี้มีประเด็นอะไรที่เขาต้องการจะสื่อบ้าง? ค่อยๆย่อยทีละประเด็น ด้วยการใช้ปากกาไฮไลท์ขีดข้อมูลที่สำคัญก่อน ซึ่งหลังจากไฮไลท์ข้อมูลที่สำคัญแล้วเป้ได้ประเด็นสำคัญของเรื่องนี้อยู่ประเด็นเดียวค่ะคือวิธีฝึกพูดแสดงความเห็น 5 ข้อ ก็จะหยิยเฉพาะ 5 ข้อนี้ล่ะค่ะมาเขียนสรุปเป็นคำพูดของเราเองเสมอเราเอาข้อมูลในหนังสือไปเล่าต่อให้เพื่อนฟัง ที่นี้มีจุดที่เพิ่มเติมคือมีข้อมูลที่น่าสนใจตรงช่วงอารัมภบทตอนต้นว่าฝรั่งที่เขาชอบ discussion กันเขาก็ได้รับการฝึกฝนมานะคะไม่ใช่อยู่ๆเถียงเป็นมาตั้งแต่เกิด ซึ่งอันนี้ถือว่าเป็นจุดที่เป้คลิ๊ก!! ว่าวัฒนธรรมชาวตะวันตกกับชาวตะวันออกต่างกันตรงนี้เลยค่ะตรงที่การปลูกฝังให้กล้าแสดงความคิดเห็นของชาวตะวันตก กับการปลูกฝังให้เคารพผู้ใหญ่ และผู้พูดคนอื่น การแสดงออกที่เห็นแตกต่างในที่ประชุมอาจจะเป็นการหักหน้าไรงี้ >> เป้จึงหยิบประเด็นนี้มาเปรียบเทียบกันในภาพสเก็ตโน๊ตฝังซ้ายมือเพื่อให้เราเข้าใจที่มามากขึ้น บทสรุปจึงมี 2 ฝั่งค่ะ​

    13 min
  4. 01/15/2021

    EP2 : Sketchnote เทคนิคการจดบันทึกของคนหัวไม่ดี

    สเก็ตโน๊ตเทคนิคการจดบันทึกของคนที่หัวไม่ดี!!! คุณจะประเมินคนที่มีลักษณะแบบนี้ว่าเป็นคนแบบไหนคะ? คุณสมบัติ คือ เป็นคนที่หัวช้า เรียนไม่ทันเพื่อน การประมวลผลต่ำ ฟังข้างหน้าเสร็จก็ลืมข้างหลัง ตั้งข้างหลังเสร็จก็ลืมไปหมด เรียนหรืออบรมอะไรไม่ทันเพื่อนสักที ระหว่าง... "คนโง่และหัวไม่ดี" กับ "คนขี้เกียจที่ไม่ยอมเตรียมตัว" การเขียน sketch note จึงเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการเขียนข้อมูลให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม #คีย์สำคัญ ของ #การทำความเข้าใจข้อมูลหรือการจับประเด็นข้อมูล ก็คือ ✔️การหาให้เจอว่าข้อมูลนั้นใครกำลังทำอะไร ✔️เห็นความเป็นไปของข้อมูลว่าเริ่มต้นจากตรงไหนและสิ้นสุดที่ตรงไหน ✔️หาเหตุผลให้ได้ว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ เท่านั้นเองค่ะ !!! #ทำความเข้าใจข้อมูลเฉยๆก็ได้ไม่เห็นจำเป็นต้องเขียนบันทึกเป็นภาพเลย? คำพูดที่ไปมักจะได้ยินจากหลายๆคนที่เข้ามาคุยด้วย แล้วยังไม่เข้าใจว่าการเขียนมันช่วยอะไร จะเล่าให้ฟังแบบนี้ค่ะ... เวลาที่เราเขียนข้อมูลลงไปบนกระดาษ📝 มันจะเอื้อให้คนที่สมองไม่ดี ที่มีปัญหาเรื่องการประมวลผลข้อมูลอยู่แล้ว (มักนึกภาพในหัวแบบเป็นขั้นตอนไม่ออก) ได้เห็นข้อมูลที่ชัดๆอย่างเป็นรูปประธรรมมากขึ้น เวลาที่สายตาจ้องลงไปมองข้อมูลแต่ละจุดจะทำให้จดจำข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะข้อมูลที่ถูกย่อยออกมาเป็นภาพ ไม่ว่าจะเป็น โฟชาร์ต หรือภาพที่แยกส่วนประกอบออกมาด้วยเส้น มันก็ทำให้เราเห็นข้อมูลแต่ละส่วนชัดขึ้น พอแยกส่วนประกอบของข้อมูลออกมาเป็นต่อนๆได้ชัดเจนขึ้น การจะบรรจุลงในโครงสร้างของความทรงจำก็ง่ายขึ้นตามไปด้วย ลองคิดภาพดูนะคะว่าถ้าคุณเป็นคนที่ไม่เคยรู้เรื่องราวของอะไรสักอย่างมาก่อน แล้วต้องสั่งข้อมูลอย่างเร็วๆ คงเป็นการยากที่ฟังปุ๊บแล้วคุณจะเข้าใจข้อมูลและMappingโครงสร้างนั้นลงในสมองได้เลยในทันที #การเขียนบันทึกเป็นภาพ ก็จะเข้ามามีบทบาทในขั้นตอนนี้แหละค่ะ ที่นี้เพื่อความทรงจำที่เหนียวแน่นมากยิ่งขึ้น เราก็ต้องมีการทบทวนข้อมูลต่างๆที่จดเอาไว้เพื่อให้ความจำยาวนานยิ่งขึ้น การจดข้อมูลเป็นตัวหนังสือยาววววววววเรียงเป็นบรรทัด ก็ไม่ต่างอะไรจากการอ่านหนังสือในครั้งแรกที่ต้องใช้เวลาในการประมวลผลและตีความอีกรอบนึงอยู่ดี แต่ถ้าเราเขียนบันทึกเป็นภาพ ย่อยข้อมูลออกมาเป็น shot สั้นๆแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องตีความและแปลข้อมูลใหม่ >> ช่วยประหยัดระยะเวลาในการทำความเข้าใจข้อมูลในขั้นตอนทบทวน ช่วยให้เราเห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เวลาเรามองเห็นภาพบ่อยๆเราก็จะเข้าใจภาพนี้ไปโดยปริยาย เราจะจดจำและเข้าใจข้อมูลอะไรสักอย่างได้ดีแม้ว่าเราจะเป็นคนที่Ramต่ำ ถ้าเราทุ่มเวลามากกว่าคนอื่นเราก็มีผลลัพธ์สำเร็จได้เช่นกัน #sketchnote #Visualnote #writing

    29 min

About

Visual Telling Thailand Podcast สรุปเป็นภาพ ให้ภาพเล่าเรื่อง